ออกจำหน่าย-เมษายน 2010
แนวดนตรี-Alternative Country,
อัลบั้ม Just A Little Lovin’ เมื่อ 2 ปีก่อนของเชลบี้ ที่เป็นงานอุทิศให้ Dusty Springfield เป็นงานที่ดูเหมือนจะเป็นการจับคู่ของนักร้องและบทเพลงที่น่าสนใจมาก แต่งานออกมากลับจืดชืดและขาดพลังบางอย่างของความเป็นตัวตนเองที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของผู้หญิงคนนี้ แต่อย่างน้อยจากอัลบั้มนั้น เชลบี้ก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ผู้ยิ่งใหญ่ Phil Ramone
Tears, Lies And Alibis คืออัลบั้มที่ 11 ของนักร้องสาวอเมริกันร่างเล็กวัย 41 ปีผู้นี้ เธอไม่อาจตกลงถึงแนวทางของการบันทึกเสียงกับต้นสังกัด Lost Highway ได้ เชลบี้ตัดสินใจเดินออกมาและเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง กับสังกัดแผ่นเสียงของเธอเอง Everso และจับงานโปรดิวซ์เอง รวมทั้งแต่งเพลงเองทั้ง 10 เพลงในอัลบั้มนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จทางเชิงพาณิชย์หรือไม่ ผมก็ต้องขอแสดงความยินดีกับเชลบี้ด้วย เพราะนี่คือตัวตนของเธอที่เธอทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง เหมือนกับอัลบั้ม I Am Shelby Lynn ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในปี 2000 และคว้ารางวัลแกรมมี่ไปในฐานะศิลปินหน้าใหม่ ทั้งๆที่เธอมีผลงานมาแล้วหลายปีดีดัก
เชลบี้เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นนักร้องคันทรี่เต็มตัว การบันทึกเสียงครั้งแรกของเธอคือการร้องเพลงคู่กับตำนานคันทรี่ George Jones ในเพลง If I Could Bottle This Up ในปี 1988 จากนั้นเธอก็วนเวียนอยู่ในการทำเพลงคันทรี่ในรูปแบบต่างๆกัน ทั้ง Country-Pop หรือ Big Band Country Swing ในแบบของ Bob Willis เชลบี้ได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ดีเสมอ แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นได้แค่ศิลปินคันทรี่เงียบๆคนหนึ่งเท่านั้น และหลังจากปี 1995 เธอก็หายเงียบไปจากวงการหลายปี ก่อนจะกลับมาเหมือนกับศิลปินคนใหม่ ด้วยงานที่ประกาศความเป็นตัวเธอ I Am Shelby Lynne เสียงของเธอเปล่งประกายความไพเราะออกมาอย่างถึงที่สุดในบทเพลงอย่าง Your Lies และ Leavin’ ที่เป็นคันทรี่เจือริธีมแอนด์บลูส์ในอารมณ์ของ Northern Soul
แต่แทนที่เธอจะยึดแนวทางนี้เป็นหลัก เชลบี้กับหันไปเล่นกับ Pop Rock เอาใจตลาดมากขึ้น และภาพลักษณ์ที่เซ็กซี่โฉบเฉี่ยวในอัลบั้มถัดมา Love,
แทบทุกคนที่ได้ฟัง Tears, Lies And Alibis ยืนยันว่านี่คือคลาสสิกเชลบี้ ทุกเพลงในอัลบั้มให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอัตตชีวประวัติของตัวเธอเอง ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ แต่น้ำเสียงของเธอก็ทำให้เรารู้สึกเช่นนั้นเสมอ นักดนตรีในอัลบั้มก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนๆฝีมือดีของเธอ รวมทั้งยอดฝีมือจาก Muscle Shoals-มือเบส David Hood และคีย์บอร์ด Spooner Oldham ฝีมือของทั้งสองคนนี้มีส่วนอย่างมากในการสร้างเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของโซลคลาสสิกในแบบงานของ Aretha Franklin ยุค Atlantic แม้ว่าเสียงหลักๆของดนตรีในอัลบั้มจะเป็นอคูสติกกีต้าร์และรึธึ่มเซ็กชั่นในแบบคันทรี่ก็ตาม
ตั้งแต่เพลงแรก Rains Came ที่เป็นเพลงแห่งความสุขบนความเศร้า, Why Didn’t You Call Me การรอคอยที่แสนหวานอมขื่น (นึกสนุกว่าถ้า Dusty Springfield ลุกขึ้นมา duet กับเธอ และดนตรีใส่เครื่องเป่าอีกสักหน่อย คงจะเป็นอะไรที่น่าฟังพิลึก), หรือ Old #7 ที่คงถูกใจคนที่ชอบใช้เพลงคันทรี่ย้อมใจเมามาย จนเพลงสุดท้าย Home Sweet Home อันเงียบสงบและอบอุ่นเหมือนชื่อเพลง ไม่มีเศษเพลงในอัลบั้มนี้ มันเป็นอัลบั้มที่แฟนดั้งเดิมของเธอทุกคนต้องภาคภูมิใจ สำหรับผู้ที่รู้จักเสียงของเธอแค่ในเพลง Wall In Your Heart ขอแนะนำให้ฟังอัลบั้มนี้ คุณจะรู้สึกเหมือนได้นั่งคุยกับเธออย่างใกล้ชิด และเมื่อฟังจบแผ่น อย่าแปลกใจถ้าคุณจะถามตัวเองว่า “เดี๋ยวนี้ยังคงมีคนทำอัลบั้มแบบนี้กันอีกหรือ”
Tracklist:
Rains Came 2:26
Why Didn't You Call Me 1:40
Like A Fool 3:58
Alibi 4:25
Something To Be Said About Airstreams 3:54
Family Tree 3:45
Loser Dreamer 4:53
Old #7 3:35
Old Dog 5:30
Home Sweet Home 3:33