Friday 27 February 2009

The Beatles | Hey Jude เพลงยาวมหากาพย์ของสี่เต่าทอง





Hey Jude เริ่มต้นด้วยเสียงร้องของผู้ชายหนึ่งคนและเครื่องดนตรีหนึ่งชิ้น แต่
7 นาทีต่อมา มันจบลงด้วยเสียงกึกก้องของเครื่องดนตรี 50 ชิ้น
มันเป็นซิงเกิ้ลที่มีความยาวมากที่สุดและขายดีที่สุดของวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ผมได้ยิน Hey Jude ครั้งแรกจากอัลบั้ม 1967-1970 เมื่อประมาณพ.ศ. 2524 มันเป็นเพลงที่ไม่เคยอยู่ในอัลบั้มปกติของพวกเขามาก่อน เพราะในปี 1968 นี่เป็นเพลงที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นซิงเกิ้ลโดยเฉพาะ (เกือบทุกซิงเกิ้ลของ Beatles เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้แฟนๆเสียเงินซ้ำซากหลายครั้ง!) ท่วงทำนองและเสียงร้องของพอล แมคคาร์ทนีย์สร้างความประทับใจให้ผมทันที แต่ว่าท่อนสุดท้ายของมัน ที่เป็นคำร้องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า(18ครั้ง)ยาวกว่าสามนาทีก็ทำให้ผมมึนไปเหมือนกันว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่(วะ) แต่ในปัจจุบันท่อน na na na นี้ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามันทำให้ Hey Jude กลายเป็นเพลง sing along สำหรับ stadium ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพลงหนึ่งของโลก

ชีวิตการแต่งงานของจอห์น และ ซินเธีย เลนนอนกำลังอยู่ในช่วงใกล้ล่มสลายในตอนต้นปี 1968 จอห์นต้องการหย่าจากซินเธียเพื่อไปใช้ชีวิตกับคนรักใหม่ของเขา ศิลปินสาวชาวญี่ปุ่น-โยโกะ โอโนะ จอห์นกับซินเธียมีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน-จูเลียน เลนนอน จูเลียนถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงรุ่งอรุณของ Beatlemania ในปี 1963 พอล แมคคาร์ทนีย์สนิทกับครอบครัวของจอห์นพอสมควร และเรื่องนี้ก็ทำให้ “อาพอล” เห็นใจซินเธียและจูเลียนยิ่งนัก บ่ายวันหนึ่งเขาขับรถออกนอกเมืองเพื่อไปเยี่ยมสองแม่ลูก ระหว่างทางนี้เองที่พอลแต่งเพลงนี้ขึ้นมาจากการฮัมปากเปล่า

เดิมทีพอลตั้งชื่อเพลงว่า Hey Jules (ใช่แล้วครับ ย่อมาจาก Julian) แต่ภายหลังเขาเปลี่ยนเป็น Jude เพราะว่ามัน “ฟังดูเป็นคันทรี่ตะวันตกกว่า”

เนื้อหาของ Hey Jude โดยรวมก็เป็นการให้กำลังใจแก่ Julian ล้วนๆ ประเด็นของมันก็คือให้ทำความเศร้าโศกให้เป็นพลังในการที่จะต่อสู้โลกต่อไป Take A Sad Song And Make It Better, don’t make it bad, don’t let me down… แม้ว่าพอลจะยืนยันมาตลอดว่าเพลงนี้แต่งให้จูเลียน แต่ก็ยังมีคนคิดไปเป็นอื่น หนึ่งในนั้นคือ จอห์น เลนนอน เขายืนยันว่าพอลแต่งเพลงนี้ให้เขาโดยตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว (จิตใต้สำนึก) ในความหมายของจอห์นนี่เป็นเพลงที่เชียร์ให้เขารีบออกไปอยู่กับโยโกะเร็วๆ (Remember to let her into your heart, then you can start to make it better.) และก็ยังมีพวกคิดมากบางกลุ่มไพล่คิดไปว่านี่เป็นเพลงยาเสพติดอีกเพลงของ Beatles ท่อน Remember to let her under your skin, then you begin to make it better จะเป็นอื่นไปได้หรือนอกจากการกล่าวถึงการฉีดเฮโรอีนเข้าเส้น! ท่อน The movement you need is on your shoulder เป็นท่อนที่จอห์นชอบที่สุดทั้งๆที่พอลคิดว่ามันห่วยจะตาย แต่จอห์นยืนยันว่า “เอามันไว้อย่างงั้นแหละ ไอเข้าใจความหมายของมัน”
ไม่ว่าจะมองว่ามันเป็นเพลงบัลลาด บลูส์ หรือกอสเพล นี่เป็นหนึ่งในเมโลดี้ที่งดงามที่สุดที่พอลเคยเขียนมา และเป็นการร้องที่สุดยอดที่สุดของเขาในเพลงทั้งหมดของ Beatles

ส่วนความหมายลึกๆของมันนั้น ผมเชื่อว่าเขาเขียนให้จอห์นครับ....

No comments: