Wednesday, 8 April 2009

Ray Guns are not Just the Future: The Bird And The Bee


The Bird And The Bee: Ray Guns Are Not Just The Future (Blue Note 2009)

ออกเมื่อ-มกราคม 2009
บันทึกเสียง-2008
โปรดิวเซอร์- Greg Kurstin / Inara George
แนวดนตรี-Pop/Electronic/Lounge/Easy Listening/Lite Jazz

Track listing
1. "Fanfare" – 0:29
2. "My Love" – 3:46
3. "Diamond Dave" – 3:14
4. "What's in the Middle" – 3:21
5. "Ray Gun" – 4:42
6. "Love Letter to Japan" – 4:07
7. "Meteor" – 3:21
8. "Baby" – 3:50
9. "Phil" – 0:10
10. "Polite Dance Song" – 3:47
11. "You're a Cad" – 3:10
12. "Witch" – 3:55
13. "Birthday" – 3:48
14. "Lifespan of a Fly" – 3:14

สองปีก่อนอัลบั้ม The Bird And The Bee สร้างความชุ่มฉ่ำในหัวใจให้นักฟังเพลงแนวป๊อบ-แจ๊ส-อีเล็กโทรนิกแบบกระจุ๋มกระจิ๋ม ด้วยเพลงดัง Again & Again ที่ฟังวนไปวนมากันได้ทั้งวันเหมือนชื่อเพลง และอีกแทร็คชื่อหวาดเสียว F_cking Boyfriend เสียงร้องของ “Bird” นั้นช่างหวานใสทรงเสน่ห์ ส่วน “Bee” นั้นก็ช่างคิดช่างปรุงดนตรีได้แพรวพราวน่าฟัง ทั้งๆที่เป็นดนตรีที่สร้างสรรค์จากเครื่องเคราอีเล็กโทรนิกเป็นส่วนใหญ่ อัลบั้มนั้นถือเป็นงานที่ดังเงียบๆและได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดีจากนักวิจารณ์ allmusic.com ยกยอว่าเป็นงานที่ “ไม่อาจห้ามใจ(ให้รัก)ได้” เพราะมัน “เต็มไปด้วยเสน่ห์และสดชื่นไปเสียทุกซอกทุกมุม”

The Bird And The Bee คือ Duo จากลอสแองเจอลิส “Bird” คือนักร้องสาวเสียงใส Inara George (ตัวเธอเองก็มี solo albums ออกมาเหมือนกัน) ส่วน “Bee” มีนามว่า Greg Kurstin โปรดิวเซอร์หนุ่มและนักคีย์บอร์ดผู้มีเครดิตการทำงานให้ศิลปินป๊อบยาวเหยียด อาทิ Lily Allen, Beck ,Kylie, The Flaming Lips ยัน Red Hot Chili Peppers เครดิตล่าสุดที่ทำให้คนเริ่มจำชื่อเขาได้คือการเป็นโปรดิวเซอร์เดี่ยวๆ (รวมทั้งการช่วยในด้านการแต่งเพลง) ให้อัลบั้มที่สองของสาวซ่าส์ Lily Allen: It’s Not Me, It’s You (รีวิวไปแล้วใน GM2000 เล่มก่อนครับ)

Ray Guns Are Not Just The Future ออกมาก่อนหน้าอัลบั้มของ Lily Allen สองสัปดาห์ และไม่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาเปรียบเทียบก็บอกได้ทันทีว่าสองอัลบั้มนี้ต้องมีคน “ทำดนตรี” คนเดียวกันแหงๆ เพราะซาวนด์เหมือนกันชนิดสามารถสลับนักร้องกันได้โดยไม่มีปัญหา (ปัญหาก็คือหลายเพลงที่เสียงของ Lily และ Inara ยังคล้ายๆกันเข้าไปอีก) ถ้าคุณชอบอัลบั้มของ Lily ก็คงจะชอบ Ray Guns… ล่ะครับ เพียงแต่มันมีความเป็นแจ๊ซมากกว่า ซ่าส์น้อยกว่า แต่หลากหลายและลึกซึ้งเป็นผู้ใหญ่กว่า ถ้ามองในแง่ฝีมือในการทำงานแบบโปรดิวเซอร์ต้องถือว่า Greg ยังต้องปรับปรุง เพราะแกใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปเต็มเหนี่ยวเหลือเกิน แต่ไม่ได้หมายความแต่ละเพลงในอัลบั้มจะเหมือนกันไปหมดนะครับอย่าเข้าใจผิด

แต่อย่าไปตั้งแง่มุมอะไรให้มันเสียอารมณ์ เพลงไพเราะและดนตรีดีๆอย่างนี้มีให้ฟังก็ดีแล้ว ทุกเพลงในอัลบั้ม Ray Guns.. สามารถเปิดฟังสบายๆได้ทุกสถานการณ์ตั้งแต่ล้างรถ,ออกกำลังกาย ,เป็นเพลงประกอบ video link หรือทำวิทยานิพนธ์ แต่ถ้ามีเวลาจะใส่หูฟังเพื่อละเมียดเอารายละเอียดก็จะพบอะไรซ่อนเร้นอยู่อีกมาก คงไม่ต้องบรรยายกันทุกเพลงสำหรับอัลบั้มนี้ แต่ถ้าอยากจะลอง download มาฟังเป็นตัวอย่างชิมลาง ก็ขอแนะนำ My Love, Baby, Birthday ในแนวอ้อยสร้อยหวานแหวว แต่ถ้าจะอยากฟังอะไรที่กระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีกนิดก็ลอง Love Letter To Japan หรือ Meteor ครับ

อัลบั้มแหววๆนี้อาจจะไม่ cool หรือเท่นักถ้าคุณจะบอกว่ามันเป็นงานที่คุณโปรดปรานให้เพื่อนๆสุดฮิปของคุณฟัง แต่นั่นคือความหมายของ Guilty Pleasure ล่ะครับ สรุปง่ายๆว่าเป็นงานที่เหมาะสำหรับคนชอบฟังเพลงอีเล็กโทรนิกป๊อบที่ขับกล่อมโดยนักร้องสาวเสียงหวาน...ออกแจ๊ซล่องลอยนิดๆ หรือถ้าคุณเป็นนักฟังรุ่นใหญ่ที่หลงใหลเพลงในแนว lounge music มาก่อนก็จะไม่ผิดหวังกับงานนี้แน่นอน ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็กลายเป็นอัลบั้ม “รับแขก” อันดับ 1ของบ้านผมไปแล้วครับ

อัลบั้มในแนวๆเดียวกันที่คุณน่าจะชอบถ้าคุณชอบ Ray Guns… Diana Krall / Quiet Nights, Melody Gardot / My One and Only Thrill, She & Him / Volume One, Santogold / Santogold และถ้าอยากขยายขอบเขตในการฟังขึ้นไปอีกนิดก็แนะนำ Everything That Happens Will Happen Today ของ David Byrne และ Brain Eno ครับ (ชื่อชั้นอาจจะดูน่าสะพรึงกลัว แต่ดนตรีไพเราะและฟังง่ายเกินความคาดหมาย)

(รีวิวนี้เขียนเสร็จตอนรุ่งเช้าวันที่ 8 เมษายน ก็หวังว่า Guns are just the faraway future นะ)

No comments: