“บางคนอาจจะเต้นแท็ปด้วยเท้าของเขา, บางคนอาจจะดีดนิ้วไปตามจังหวะ และบางคนอาจจะเต้นโยกหน้าเด้งหลัง ผมก็แค่ทำมันทุกอย่างพร้อมๆกัน, ผมเดาว่าอย่างนั้นนะ”-เอลวิส เพรสลีย์
เมื่อเราคิดถึงเอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อคแอนด์โรล นอกจากการสไตล์การร้องเพลงและรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของเขาแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นที่กล่าวขานคือลีลาการโยกย้ายร่างกายของเขา สะโพกที่สั่นไหวอย่างไร้รูปแบบของเอลวิสเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งอันตรายต่อสังคมมาแล้ว
เขาไปเอาลีลาการเต้นแบบนี้มาจากไหน? อันนี้มีหลายทฤษฎีด้วยกันนะครับ ในการสัมภาษณ์หลายๆครั้งเอลวิสเล่าว่าการเต้นกระเส่าสั่นของเขานั้นเป็นผลโดยตรงมาจากความตื่นเต้นของเขาก่อนการแสดงครั้งสำคัญที่ Overton Park Shell หลังจากเขาบันทึกเสียงที่ Sun Studio ได้ไม่นาน วันนั้นเอลวิสตื่นเวทีขนาดหนัก และขาของเขาก็เริ่มสั่นผับๆ แต่มันกลับทำให้คนดูบ้าคลั่งไปเลย ตอนเขาออกไปอีกทีตอน encore เอลวิสก็สั่นอีกครั้ง “ยิ่งผมสั่นแค่ไหน ดูเหมือนพวกเขาจะยิ่งบ้าหนักเข้าไปอีก” เอลวิสเคยอธิบายเอาไว้ และนั่นคือกำเนิดของการเขย่าขาบรรลือโลกของราชาร็อคแอนด์โรล
แต่ในการให้สัมภาษณ์อีกครั้งเขากลับบอกว่าการเต้นสะโพกสะท้านทรวงของเขานั้นเริ่มมาจากตอนที่เขาซ้อมดนตรีกับ Scotty Moore และ Bill Black ที่ Sun Studio แต่ก็คล้ายกันตรงที่มันเกิดจากความตื่นเต้นและทำให้เขาสั่นระรัวขึ้นมาสดๆในห้องอัดนั้น เขาเล่าไว้ว่า “นาทีที่ดนตรีเริ่มขึ้น ผมก็ไม่ได้เป็นตัวผมเองต่อไป แม้ว่าผมจะอยากหยุดการพล่านไปทั่วนั้นผมก็ทำไม่ได้ เพราะว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีมากพอๆกับถ้อยคำที่ผมกำลังร้องอยู่” และก็มีบางครั้งเอลวิสก็ไม่ปิดบังว่าส่วนหนึ่งของการเต้นแบบนี้เอามาจากการเต้นพร้อมๆกันของวงกอสเพลสี่คนที่เขาชื่นชอบ ในช่วงที่เขาเหล่านั้นเต้นแบบ ‘rocking spirituals’
เพื่อนสมัยเรียนบางคนอ้างว่า เขาเคยเห็นเอลวิสสั่นสะท้านแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ขณะเล่นกีต้าร์คนเดียว ซึ่งเขาก็อดหัวเราะกับภาพที่เห็นไม่ได้ (ถ้าเขาได้ถ่ายคลิปไว้ก็ดีสินะ :P)
ปฏิกิริยาอันบ้าคลั่งที่แฟนๆมีต่อเขาและวงในการแสดงครั้งแรกๆสร้างความงงงวยให้เอลวิสและทีมงานอยู่พักนึง จนในที่สุดพวกเขาก็พบว่ามันมาจากขาสั่นๆของเขานั่นเอง Scotty Moore มือกีต้าร์คู่บารมีเอลวิสเล่าว่า “สาวๆบ้ากันไปเลย! มันเหมือนกับเอลวิสยืนอยู่บนลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมา ในแบบเกร็งตัว มือไม้สั่นไหวเล่นไปกับจังหวะและทุกสิ่งทุกอย่าง...” มันเหมือนกับว่าเขาจะทรงตัวไม่ได้บนลูกบอลนั้น ทำให้เอลวิสไม่มีทางอื่นนอกจากต้องสั่นไปทั้งร่างเหมือนกับใบไม้ต้องลม Bob Neal ผู้เป็นผู้จัดการของเอลวิสในยุคแรกแนะนำให้เอลวิสทำแบบนั้นต่อไปไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เพราะแฟนๆชอบ!
ยังไม่หมดแค่นั้น ในหลายปีต่อมาก็มีทฤษฎีอื่นๆผุดขึ้นมาอีก อาทิ เขาหัดเต้นแบบระยางค์หลวมนี้ในการเต้นที่ Catholic Youth Organization, เขาเต้นกับสาวๆกลุ่มใหญ่ใน High School, เขาได้แรงบันดาลใจมาจากการเต้นของ Charlie Burse นักร้องเพลงบลูส์แห่ง Beale Street, เขาได้การเคลื่อนร่างแบบนี้มาจากการศึกษาท่าทางของดาราหนัง Gilda Gray ‘shimmy queen”, หรือว่าเขาก๊อปปี้สไตล์การเต้นมาจาก Wynonie Harris, Bo Diddley, Little Richard, Johnny Ray หรือ Jim ‘Big Chief’ Wetherington ความจริงแท้เกี่ยวกับที่มาของการเต้นของเอลวิสก็คงจะคล้ายๆกับที่มาของการร้องเพลงในแบบของเขา เอลวิสนำสิ่งที่เขารู้มาผสมผสานคลุกเคล้ากันเพื่อสร้างสิ่งใหม่
หรืออาจจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่า เขาเต้นไม่เหมือนใครเลย
ในยุคแรกๆของการแสดงของเขา มีมุกหนึ่งที่เขาชอบเล่นกันบนเวที เอลวิสจะออกมายืนนิ่งไม่ไหวติง และ Scotty ก็จะเดินมาทำท่า “ไขลาน” เขาด้านหลัง ราวกับว่าเอลวิสเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง และเอลวิสก็จะหยิบกีต้าร์ขึ้นมา เริ่มดีด และคนดูก็บ้าไปตามระเบียบ เสียงคนดูกึกก้องจนนักดนตรีฟังไม่ออกว่าเอลวิสร้องถึงไหนแล้ว พวกเขาได้แต่เล่นไปตามการเคลื่อนไหวของเอลวิสเท่านั้น
แน่นอนว่าในหลายๆมุมมอง คิดว่าการเต้นของเอลวิสนั้นขัดต่อศีลธรรม แม้ว่าเขาจะยืนยันว่า มันเป็นเพราะเขา “อิน” ไปกับดนตรีมากกว่าสิ่งอื่นใด “ผมไม่ได้พยายามจะขายเซ็กซ์อะไรเลย” เอลวิสยืนกราน แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงของเขาอันโด่งดังในรายการ Ed Sullivan Show ในปี 1956 ก็มีการสั่งห้ามกล้องไม่ให้ถ่ายต่ำกว่าเอว ของเอลวิสลงมา
ในยุค 60’s เอลวิสไม่ได้แสดงบนเวที แต่ทุ่มเวลาแทบจะทั้งทศวรรษไปกับการแสดงภาพยนตร์ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ที่ขายเพลงไปด้วย เขามีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้นในหนังหลายๆเรื่อง ตั้งแต่ Jailhouse Rock ร่วมกับ Alex Romero และอีกหลายๆเรื่องกับ Lance LeGualt
ท่านจะได้เห็นเอลวิสเต้น twist ในหนัง Girls! Girls! Girls! และ It Happened at the World’s Fair เรื่องหลังนี้เขาเต้น waltz ด้วย และการเต้นแบบ choreography dancing ใน Viva Las Vegas (เพลง C’mon Everybody)
ยุค 70’s เอลวิสคืนเวทีอีกครั้ง เขาไม่ได้เต้นสั่นขามากมายเหมือนเดิมแล้ว แต่มีบางอย่างที่เพิ่มเข้ามาแทนในแบบที่ไม่มีใครจะคาดฝันได้ มันคือการโชว์คาราเต้ระหว่างการแสดง แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากนักในยุคท้ายๆ แฟนๆก็ยังคงรักเอลวิสไม่ได้น้อยลงเลยสักนิด
เมื่อเราคิดถึงเอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อคแอนด์โรล นอกจากการสไตล์การร้องเพลงและรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของเขาแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นที่กล่าวขานคือลีลาการโยกย้ายร่างกายของเขา สะโพกที่สั่นไหวอย่างไร้รูปแบบของเอลวิสเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งอันตรายต่อสังคมมาแล้ว
เขาไปเอาลีลาการเต้นแบบนี้มาจากไหน? อันนี้มีหลายทฤษฎีด้วยกันนะครับ ในการสัมภาษณ์หลายๆครั้งเอลวิสเล่าว่าการเต้นกระเส่าสั่นของเขานั้นเป็นผลโดยตรงมาจากความตื่นเต้นของเขาก่อนการแสดงครั้งสำคัญที่ Overton Park Shell หลังจากเขาบันทึกเสียงที่ Sun Studio ได้ไม่นาน วันนั้นเอลวิสตื่นเวทีขนาดหนัก และขาของเขาก็เริ่มสั่นผับๆ แต่มันกลับทำให้คนดูบ้าคลั่งไปเลย ตอนเขาออกไปอีกทีตอน encore เอลวิสก็สั่นอีกครั้ง “ยิ่งผมสั่นแค่ไหน ดูเหมือนพวกเขาจะยิ่งบ้าหนักเข้าไปอีก” เอลวิสเคยอธิบายเอาไว้ และนั่นคือกำเนิดของการเขย่าขาบรรลือโลกของราชาร็อคแอนด์โรล
แต่ในการให้สัมภาษณ์อีกครั้งเขากลับบอกว่าการเต้นสะโพกสะท้านทรวงของเขานั้นเริ่มมาจากตอนที่เขาซ้อมดนตรีกับ Scotty Moore และ Bill Black ที่ Sun Studio แต่ก็คล้ายกันตรงที่มันเกิดจากความตื่นเต้นและทำให้เขาสั่นระรัวขึ้นมาสดๆในห้องอัดนั้น เขาเล่าไว้ว่า “นาทีที่ดนตรีเริ่มขึ้น ผมก็ไม่ได้เป็นตัวผมเองต่อไป แม้ว่าผมจะอยากหยุดการพล่านไปทั่วนั้นผมก็ทำไม่ได้ เพราะว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีมากพอๆกับถ้อยคำที่ผมกำลังร้องอยู่” และก็มีบางครั้งเอลวิสก็ไม่ปิดบังว่าส่วนหนึ่งของการเต้นแบบนี้เอามาจากการเต้นพร้อมๆกันของวงกอสเพลสี่คนที่เขาชื่นชอบ ในช่วงที่เขาเหล่านั้นเต้นแบบ ‘rocking spirituals’
เพื่อนสมัยเรียนบางคนอ้างว่า เขาเคยเห็นเอลวิสสั่นสะท้านแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ขณะเล่นกีต้าร์คนเดียว ซึ่งเขาก็อดหัวเราะกับภาพที่เห็นไม่ได้ (ถ้าเขาได้ถ่ายคลิปไว้ก็ดีสินะ :P)
ปฏิกิริยาอันบ้าคลั่งที่แฟนๆมีต่อเขาและวงในการแสดงครั้งแรกๆสร้างความงงงวยให้เอลวิสและทีมงานอยู่พักนึง จนในที่สุดพวกเขาก็พบว่ามันมาจากขาสั่นๆของเขานั่นเอง Scotty Moore มือกีต้าร์คู่บารมีเอลวิสเล่าว่า “สาวๆบ้ากันไปเลย! มันเหมือนกับเอลวิสยืนอยู่บนลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมา ในแบบเกร็งตัว มือไม้สั่นไหวเล่นไปกับจังหวะและทุกสิ่งทุกอย่าง...” มันเหมือนกับว่าเขาจะทรงตัวไม่ได้บนลูกบอลนั้น ทำให้เอลวิสไม่มีทางอื่นนอกจากต้องสั่นไปทั้งร่างเหมือนกับใบไม้ต้องลม Bob Neal ผู้เป็นผู้จัดการของเอลวิสในยุคแรกแนะนำให้เอลวิสทำแบบนั้นต่อไปไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เพราะแฟนๆชอบ!
ยังไม่หมดแค่นั้น ในหลายปีต่อมาก็มีทฤษฎีอื่นๆผุดขึ้นมาอีก อาทิ เขาหัดเต้นแบบระยางค์หลวมนี้ในการเต้นที่ Catholic Youth Organization, เขาเต้นกับสาวๆกลุ่มใหญ่ใน High School, เขาได้แรงบันดาลใจมาจากการเต้นของ Charlie Burse นักร้องเพลงบลูส์แห่ง Beale Street, เขาได้การเคลื่อนร่างแบบนี้มาจากการศึกษาท่าทางของดาราหนัง Gilda Gray ‘shimmy queen”, หรือว่าเขาก๊อปปี้สไตล์การเต้นมาจาก Wynonie Harris, Bo Diddley, Little Richard, Johnny Ray หรือ Jim ‘Big Chief’ Wetherington ความจริงแท้เกี่ยวกับที่มาของการเต้นของเอลวิสก็คงจะคล้ายๆกับที่มาของการร้องเพลงในแบบของเขา เอลวิสนำสิ่งที่เขารู้มาผสมผสานคลุกเคล้ากันเพื่อสร้างสิ่งใหม่
หรืออาจจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่า เขาเต้นไม่เหมือนใครเลย
ในยุคแรกๆของการแสดงของเขา มีมุกหนึ่งที่เขาชอบเล่นกันบนเวที เอลวิสจะออกมายืนนิ่งไม่ไหวติง และ Scotty ก็จะเดินมาทำท่า “ไขลาน” เขาด้านหลัง ราวกับว่าเอลวิสเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง และเอลวิสก็จะหยิบกีต้าร์ขึ้นมา เริ่มดีด และคนดูก็บ้าไปตามระเบียบ เสียงคนดูกึกก้องจนนักดนตรีฟังไม่ออกว่าเอลวิสร้องถึงไหนแล้ว พวกเขาได้แต่เล่นไปตามการเคลื่อนไหวของเอลวิสเท่านั้น
แน่นอนว่าในหลายๆมุมมอง คิดว่าการเต้นของเอลวิสนั้นขัดต่อศีลธรรม แม้ว่าเขาจะยืนยันว่า มันเป็นเพราะเขา “อิน” ไปกับดนตรีมากกว่าสิ่งอื่นใด “ผมไม่ได้พยายามจะขายเซ็กซ์อะไรเลย” เอลวิสยืนกราน แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงของเขาอันโด่งดังในรายการ Ed Sullivan Show ในปี 1956 ก็มีการสั่งห้ามกล้องไม่ให้ถ่ายต่ำกว่าเอว ของเอลวิสลงมา
ในยุค 60’s เอลวิสไม่ได้แสดงบนเวที แต่ทุ่มเวลาแทบจะทั้งทศวรรษไปกับการแสดงภาพยนตร์ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ที่ขายเพลงไปด้วย เขามีส่วนร่วมในการออกแบบท่าเต้นในหนังหลายๆเรื่อง ตั้งแต่ Jailhouse Rock ร่วมกับ Alex Romero และอีกหลายๆเรื่องกับ Lance LeGualt
ท่านจะได้เห็นเอลวิสเต้น twist ในหนัง Girls! Girls! Girls! และ It Happened at the World’s Fair เรื่องหลังนี้เขาเต้น waltz ด้วย และการเต้นแบบ choreography dancing ใน Viva Las Vegas (เพลง C’mon Everybody)
ยุค 70’s เอลวิสคืนเวทีอีกครั้ง เขาไม่ได้เต้นสั่นขามากมายเหมือนเดิมแล้ว แต่มีบางอย่างที่เพิ่มเข้ามาแทนในแบบที่ไม่มีใครจะคาดฝันได้ มันคือการโชว์คาราเต้ระหว่างการแสดง แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากนักในยุคท้ายๆ แฟนๆก็ยังคงรักเอลวิสไม่ได้น้อยลงเลยสักนิด
No comments:
Post a Comment