Laura Marling : Semper Femina ***1/2
Genre: Indie Folk
Producer: Blake Mills
Tracklist: Soothing / The Valley / Wildfire / Don’t Pass Me
By / Always This Way / Wild Once / Next
Time / Nouel / Nothing, Not Nearly
จะขอบคุณหรือขอโทษคุณพ่อของเธอก็ได้ แต่เขาเป็นเหตุผลที่ทำให้ลอร่า
มาร์ลิ่ง สาวบริทิชที่เกิดในปีค.ศ. 1990 คนนี้ มาทำเพลงโฟล์คอันเป็นแนวที่ไม่ใช่วัยของเธอเลย
คุณพ่อ-Sir Charles William Somerset Marling เป็นผู้แนะนำให้เธอรู้จักกับดนตรีโฟล์คตั้งแต่วัยกระเตาะ
ปัจจุบันลอร่าอายุ 27 ปี และนี่คืออัลบั้มชุดที่ 6 ของเธอ “Semper Femina” และความเป็นโฟล์คก็ยังเจิดจ้าในบทเพลงของเธอเช่นเคยมา
(แม้จะมีอย่างอื่นอีกมากในส่วนผสม)
Semper Femina…. คำๆนี้ฟังครั้งแรกแม้จะไม่ทราบความหมาย
ก็รู้สึกได้ว่าเป็นชื่อที่ไพเราะและมีความเป็นกวี มันเป็นภาษาละตินที่แปลคร่าวๆได้ว่า
“สตรีนั้นย่อมเปลี่ยนแปรเสมอ” ลอร่าคงจะชอบคำๆนี้มาก
ถึงกับสักมันไว้ที่ต้นขาของเธอตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ไม่มีชื่อเพลงนี้ในอัลบั้ม แต่คุณจะได้เห็นคำๆนี้ในเนื้อเพลงของเพลง
Nouel และอาจกล่าวได้ว่า มันเป็น theme ของอัลบั้มนี้ ซึ่งก็หมายความว่านี่คือ concept album
คุณอาจจะรู้สึกพิลึกๆกับการใช้สรรพนามในอัลบั้มนี้
มันเหมือนกับจะเป็นอัลบั้มของ singer-songwriter ชายที่เขียนเพลงให้ผู้หญิง
ถ้าคุณรู้สึกอย่างนั้นก็ไม่แปลก เพราะเป็นความจงใจของลอร่าในขั้นแรกเมื่อเขียนเพลงสำหรับอัลบั้มนี้
ที่เธอจะสมมุติตัวเองเป็นผุ้ชายเขียนเพลงให้กับผู้หญิง แต่ภายหลังลอร่าก็เปลี่ยนใจ
ด้วยความรู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
เธอสามารถเขียนเพลงให้ผู้หญิงโดยตัวตนของเธอเองได้
และหลายๆเพลงก็ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นที่กำลังฟังเพลงของเธอ
ก็หาใช่ใครอื่นนอกจากตัวเธอเอง
ลอร่าใช้คำไม่ยากนักในการประพันธ์เพลง แต่ก็เหมือนกวีทั้งหลาย
ความยากอยู่ที่การบอกไม่หมด
และการตีความต่อเนื่องจากถ้อยคำที่คุณเห็นและได้ยินนั้น
บางเพลงก็จัดว่าตีความค่อนข้างง่าย (หรืออาจจะไม่ต้องตีเลยก็ได้)
แต่บางเพลงก็คงต้องรอให้เธอมาเขียนคำเฉลยในอนาคตสักวันหนึ่งถึงจะแน่ใจได้ว่าเธอหมายถึงอะไรก็ได้
ตั้งแต่ออกผลงานชุดแรก Alas I Cannot Swim ปี 2008
เป็นต้นมา ลอร่า มาร์ลิ่ง ไม่เคยทำงานไม่ดี (มีแต่ดีมาก หรือ ดีมากๆ เท่านั้น)
งานอินดี้โฟล์คของเธออาจจะไม่ได้ฟังง่ายเสนาะหูเข้าถึงคนหมู่มากได้
แต่มันเป็นเพลงที่เหมาะสำหรับนักฟังตัวจริง ที่พร้อมจะให้เวลาดื่มด่ำกับดนตรีและเนื้อหา
หลายอัลบั้มของเธอได้รับการคัดเลือกให้เช้าชิงรางวัล Mercury (แต่ไม่เคยชนะสักชุด)
ถ้ามีโอกาส คุณก็ควรจะฟังงานเก่าๆของเธอมาก่อน
จะได้เห็นความเติบโตหลายๆอย่างของผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่แนวคิด การทำดนตรี
และลีลาในการใช้เสียงร้องถ่ายทอดบทเพลง
แต่ยุคนี้จะหาเวลาอย่างนั้นอาจจะไม่ยาก ผมว่ามันก็โอเคนะ
ถ้าคุณจะเริ่มที่อัลบั้มนี้เลย ลอร่าร่วมงานกับ Blake Mills โปรดิวเซอร์หนุ่ม
(มีผลงานกับ Alabama Shakes) Semper Femina ยังคงเป็นงานที่คงลายเซ็นสำคัญๆของลอร่าไว้ครบครัน
ทั้งการเขียนเนื้อเพลงแบบกวีโฟล์ค แนวดนตรีที่ใช้การพิคกิ้งกีต้าร์นำทางในทางเดินคอร์ดที่ไม่ธรรมดา
อันชวนให้คิดถึงผลงานอันยิ่งใหญ่ในยุคทศวรรษ 70’s ของ Joni
Mitchell เครื่องสายเบาบางที่สอดประสานเข้ามาอย่างรู้กาลเทศะ
ทุกเพลงดำเนินไปด้วยจังหวะอันเนิบช้า เสียงร้องของลอร่าเต็มไปด้วยความมั่นใจและหนานุ่มกว่าครั้งเยาว์วัยมากมาย นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้
รวมทั้งสีสันดนตรีในแนวแฝงอื่นที่นอกเหนือจากโฟล์คที่ดอดเข้ามาร่วมสังสรรค์ในแบบที่คนฟังอาจจะแทบไม่สังเกต
ฟังเพลงโฟล์คแบบนี้ จำเป็นไหมต้องสนใจเนื้อเพลงด้วย?
ตอบอย่างฟันธงเลยว่าจำเป็นครับ ไม่งั้นอรรถรสจะหายไปกว่าครึ่ง
ลองเอาเนื้อเพลง(ที่ยุคนี้หากันไม่ยาก)มากางดูตามไปเถิดครับ ผมคงไม่ลงรายละเอียด ณ
ที่นี้ ให้โอกาสท่านไปตีความกันเอง
จากแทร็คแรก Soothing ที่ออกแนว scary trip hop ของ Portishead
จนถึงเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ลุกมาจากภวังค์หลับใหลในแทร็คสุดท้าย
Nothing, Not Nearly นี่คือผลงานชิ้นเอกอีกครั้งของลอร่า มาร์ลิ่ง
มันยังคงเป็นอัลบั้มที่น่าสะสม แม้ในยุคที่คนจะเลิกสะสมงานเพลงกันแล้ว และผมจะไม่แปลกใจเลยถ้า Semper Femina จะทำให้ลอร่าได้เข้าชิง
Mercury Prize อีกครั้งในปีหน้า
และเธอก็สมควรจะชนะเสียทีแล้วในคราวนี้