Thursday, 26 February 2009

Led Zeppelin: Life Before Led (3-final)




มกราคม 1965 Eric Clapton ลาออกจาก The Yardbirds และ จิมมี่ เพจก็ได้รับคำเชิญจากวงเป็นครั้งแรกให้มาเล่นกีต้าร์แทน เพจปฏิเสธ และแนะนำ Jeff Beck แทน แต่เมื่อเขาถูกเชิญอีกครั้งหลังจากความผิดหวังในการรวมตัวกับนักดนตรีที่เล่นใน Beck’s Bolero ไม่นาน คราวนี้เพจไม่รีรอ เขาเริ่มต้นกับ Yardbirds ด้วยการเล่นเบสแทนที่ Paul Samwell-Smith แต่ไม่นาน เขาก็เปลี่ยนมาเล่นกีต้าร์คู่กับเบ็ค พวกเขามักจะเล่นริฟฟ์ไปพร้อมๆกันและผลัดกันโซโล สไตล์ของเจฟฟ์ดูจะไฮเปอร์กว่าของเพจที่เต็มไปด้วยความสุขุม,มั่นใจ
เจฟฟ์ เบ็ค ออกจาก The Yardbirds ไปหลังจากการทัวร์อเมริกาในปี 1966 จิมมี่ เพจควบตำแหน่งกีต้าร์ต่อคนเดียว เขาทำหน้าที่ประคองวงต่อไปได้อย่างไม่เลว จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิของปี 1968 พวกเขาก็สลายวง ทั้งๆที่ยังมีสัญญาทัวร์แถบสแกนดิเนเวียอยู่ ปีเตอร์ แกรนต์ผู้จัดการวงของ Yardbirds ในตอนนั้น (เขากลายมาเป็นผู้จัดการของ Led Zeppelin ในเวลาต่อมา) แจ้งให้เพจทราบว่า เขายังมีสิทธิใช้ชื่อวง Yardbirds อยู่
และเพจก็ยังต้องการจะใช้สิทธินั้น สิ่งที่เขาต้องหามาโดยด่วนก็คือ มือเบส (Chris Deja มือเบสคนเก่าของ Yardbirds ยังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะเล่นต่อหรือไม่) นักร้อง และ มือกลอง สำหรับวง Yardbirds “ใหม่” นี้




Note: ผลงานบันทึกเสียงที่เพจทำไว้ร่วมกับ The Yardbirds มีดังนี้


ซิงเกิ้ล Happenings Ten Years Time Ago / Psycho Daisies (ตุลาคม 1966) เป็นซิงเกิ้ลเดียวที่ออกมาในยุคที่มีทั้งเพจและเบ็ค เบ็คเล่นลีดกีต้าร์ในทั้งสองเพลง Happenings… นั้นเพจเล่นริธึ่มกีต้าร์ (และอาจจะเล่นโซโลบางท่อน) ส่วนใน Psycho… เพจเล่นเบส (และอาจจะกีต้าร์ด้วย)


Yardbirds ในยุคเพจ/เบ็ค ยังบันทึกเสียงเพลง ‘Stroll On’ สำหรับซาวนด์แทร็คหนัง ‘Blow Up’ ด้วย(เพลงนี้ได้ไอเดียมาจากเพลง ‘The Train Kept A-Rollin’’


ลองเพลย์ ‘Little Games’ ออกมาในปี 1967 ยุคนี้เพจเล่นลีดคนเดียว เพราะเบ็คออกไปแล้ว เขานำ bow (คันชักไวโอลิน)มาเล่นในอัลบั้มนี้สองเพลงคือ Tinker Tailor Soldier Sailor และ Glimpses


อัลบั้ม The Yardbirds: "LIVE YARDBIRDS! FEATURING JIMMY PAGE” ออกมาในปี 1971 จากการแสดงในนิวยอร์คเมื่อปี 1968 เพจสั่งระงับการผลิตอัลบั้มนี้ในเวลาค่อมา อาจจะเป็นเพราะมันเต็มไปด้วยเสียงปรบมือปลอมๆที่อัดทับลงไป


The Yardbirds “BBC Sessions” ออกมาในปี 1997 แต่มีแค่ 6 เพลงที่มีเพจเล่นด้วย


ค่ำคืนหนึ่งในเซสชั่นการบันทึกเสียงอัลบั้ม Hurdy Gurdy Man ของ Donovan จอห์น พอล โจนส์ ในฐานะนักเรียบเรียงเสียงประสานในวันนั้น ได้เอ่ยปากขอเข้าร่วมวง ‘The New Yardbirds’ กับ จิมมี่ เพจที่มาเล่นกีต้าร์ในวันนั้นพอดี โจนส์อาจจะไม่ได้ต้องการเพจมากไปกว่าที่จะหา “ที่” ที่เขาจะสามารถแสดงฝีมือออกมาได้เต็มที่เหมือนกับเพจในช่วงก่อนหน้านั้น ด้วยฝีมือระดับโจนส์ที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง จับแนวดนตรีได้กว้างขวาง แถมยังอะเรนจ์เพลงได้อีก เพจจึงรับเขามาเป็นสมาชิกของวงคนที่สอง (ต่อจากเขา) ทันทีบีเจ วิลสัน แห่ง Procol Harum และ Clem Cattini อดีตวง Tornadoes คือสองมือกลองที่เพจสนใจจะจีบมาเข้าก๊วน แต่ทั้งสองคนก็ไม่เล่นด้วย เทอรี่ รีด...(ยังจำเขาได้ไหม นักร้องที่แพล็นต์ยกย่อง) คือคนต่อไปที่ถูกหมายหัว เพจอยากได้เขามาร้องนำและเป็นกีต้าร์มือสอง แต่รีดเพิ่งเซ็นสัญญากับมิคกี้ โมสต์ไปไม่นานนี้เอง อย่างไรก็ตาม เทอรี่ได้แนะนำเพจให้ลองไปคุยกับโรเบิร์ต แพลนต์ เด็กหนุ่มวัย 19 ปีดู ตอนนั้นแพลนต์ตะบันไมค์อยู่กับวง Hobbstweedle จิมมี่ เพจจับรถขึ้นเหนือเดินทางไปเบอร์มิงแฮมเพื่อชมการแสดงของ Hobbstweedle ด้วยตาตัวเอง คืนนั้นแพลนต์และวงเล่นที่โรงเรียนฝึกหัดครูแห่งหนึ่งที่คนดูนั่งดูอย่างเซ็งๆ แต่ลีลาของเขานั้นสุดจะไดนามิค แพลนต์ดูจะเป็นแฟนตัวเอ้ของ Moby Grape และคืนนั้นพวกเขาก็เล่นกันแต่เพลงเวสต์โคสต์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก สิ่งหนึ่งที่แล่นอยู่ในสมองของจิมมี่ก็คือ ไอ้หนุ่มผมทองคนนี้มันต้องมีปัญหาด้านบุคลิกภาพหรือเป็นคนที่ทำงานกับใครไม่ได้แหงๆ เพราะลีลาระดับนี้และก็ร้องมาสองสามปีแล้ว มันทำไมยังไม่ดังกระฉ่อนเกาะอีก? แน่นอนว่าเพจลากแพลนต์ลงใต้มาได้อย่างง่ายดาย และโชคซ้ำซ้อน แพลนต์ช่วยแก้ปัญหาเรื่องมือกลองให้เพจอีกด้วย แม้ว่าจะมีมือกลองมาขอออดิชั่นมากมาย แต่แพลนต์ก็แนะว่าลองไปฟังนาย จอห์น บอนแฮมตีดูก่อนเถิด เพจเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อนแล้ว เพจไม่มีปัญหาใดๆในการมองทะลุว่าบอนแฮมคือขุมพลังสุดท้ายที่เขาค้นหา แต่บองโซก็ยังอิดออด เพราะเสียดายค่าจ้าง 40 ปอนด์/สัปดาห์ที่เขาได้ประจำจากการเล่นแบ็คอัพให้นักร้องอเมริกันโฟล์ค ทิม โรส แต่แพลนต์ก็ยืนยันว่ายังไงก็ต้องเอาเพื่อนเก่าของเขาคนนี้มาตีกลองให้ได้ “เขาเป็นมือกลองคนเดียวทีผมเห็นว่าเยี่ยม.” และสุดท้าย บองโซก็ทะยานขึ้นลำเรือเดียวกับ เพจ, แพลนต์ และ โจนส์ พวกเขาซ้อมกันครั้งแรกที่ชั้นใต้ดินของอาคารใน Gerrad Street, London ก่อนที่จะออกเดินทางสู่สแกนดิเนเวีย เพื่อเล่นในทัวร์ที่ Yardbirds มีสัญญาเอาไว้ นั่นคือเดือนกันยายน 1968 ทัวร์ของพวกเขาสร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้ชมสแกนดิเนเวียนทุกผู้ในทุกการแสดง และนาทีนั้น เพจสำนึกว่าวงดนตรีที่เขารวบรวมขึ้นมาใหม่นี้มีคุณค่าในตัวเองเกินกว่าที่จะใช้ชื่อเดิมๆของ Yardbirds พวกเขายิ่งใหญ่พอที่จะมีนามของตัวเอง และในวันที่ 15 ตุลาคม 1968 สี่หนุ่มก็ขึ้นเวทีที่มหาวิทยาลัยSurreyด้วยชื่อที่ครั้งหนึ่งคีธ มูนเคยแนะเอาไว้แบบขำๆ อาจจะเป็นในวงเหล้าหลังจาก Beck’s Bolero sessions : LEAD ZEPPELIN แต่เพื่อป้องกันความสับสนในการออกเสียง พวกเขาตัดตัวเอออกไป (ไอเดียของปีเตอร์ แกรนต์)



Ladies and Gentleman….Led Zeppelin !

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ