Friday, 20 February 2009

Motown The Complete #1s Boxset


Various Artists-Motown: The Complete NO.1’s ****


ออกปี-2008
จำนวน-10 แผ่น (digipacks)
Compilation produced by Harry Weinger
Mastered By Kevin Reeves



สนนราคาของบอกซ์ MotownThe Complete #1s นั้นปาเข้าไปเกือบๆครึ่งหมื่น
มันก็ไม่ได้แพงเกินซีดีทั่วไปหรอกครับ แต่เป็นเพราะกล่องซีดีชุดนี้บรรจุซีดีไว้ถึง
10 แผ่นด้วยกัน
แฟนเพลงที่จะเป็นเจ้าของบอกซ์นี้จึงต้องเป็นผู้มีรายได้เกินกว่าที่จะต้องการความจุนเจือจากรัฐบาลหรือนักการเมืองใดๆ
นั่นเป็นประการแรก ด่านแรกที่ต้องผ่าน ถ้าคุณไม่มีปัญหาในการซื้อซีดี 10
แผ่นพร้อมๆกันแล้ว ก็ต้องถามตัวเองว่าคุณชอบเพลงในสไตล์ "โมทาวน์" ขนาดไหน
กล่องนี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นแฟนเข้ากระดูกของโมทาวน์ที่สะสมทุกอย่าง
หรือไม่ก็เป็นผู้คิดจะเริ่มฟังแต่อยากเก็บเฉพาะเพลงสุดฮิตของค่ายนี้เอาไว้เปิดฟังรวดเดียว
(ใช้เวลากว่าครึ่งวันถ้าคุณเปิดไม่หยุด)
ก่อนที่ท่านจะคิดว่าผู้เขียนเป็นพวกไหนกันแน่ ก็ขอประกาศขอบคุณ คุณสัมพันธ์
โตสว่างไว้ตรงนี้เสียเลย ที่ให้ยืมแผ่นชุดนี้มาเขียนครับ!


ถ้านับว่าเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 คือเพลงที่มีคุณค่ามีราคากว่าเพลงดาษๆทั่วไปล่ะก็ กล่องนี้ไม่แพงหรอกครับ เพราะมันรวมเพลงที่ขึ้นสู่ยอดชาร์ตเข้าไว้ด้วยกันมากกว่า 200 เพลง ผมไม่คิดว่าจะมีกล่องซีดีชุดไหนจะมีเพลงอันดับ1เอาไว้ในชุดมากมายขนาดนี้ ใครพบวานบอกด้วยนะครับ


แต่เดี๋ยวก่อน! เรื่องอันดับ 1 นี่ต้องดูคำจำกัดความกันหน่อย ในกล่องนี้ คำว่าอันดับ 1 ของเขานั้นกว้างไพศาล กินความไปถึงทุกชาร์ต (ทุกแนวดนตรี) ของทุกประเทศที่ทีมงานคนทำกล่องพอจะหามาได้ (นี่ขนาดไม่มีประเทศไทยนะ) แถมเพลงโมทาวน์ที่ไม่เคยขึ้นอันดับ1โดยตัวศิลปินโมทาวน์เอง แต่ศิลปินค่ายอื่นเอาไปร้องแล้วขึ้นที่1ได้ ก็ยังมารวมเอาไว้ในกล่องนี้ในฐานะโบนัสแทร็คด้วย ไม่งั้นเราคงไม่ได้มีเพลงดีๆอย่าง Dancing In The Street หรือ This Old Heart Of Mine ในกล่องนี้ (ไม่น่าเชื่อว่าเพลงระดับดังมากๆหลายเพลงกลับไม่เคยขึ้นอันดับ 1 ) นั่นเป็นเรื่องสนุกๆทางสถิติ แต่เพลงอันดับ1มันก็คือเพลงที่ฮิตที่สุดในเวลานั้นๆจากการรวบรวมข้อมูลของใครบางคน และมันก็หลายสิบปีมาแล้ว คุณค่าจริงๆของเพลงสองร้อยกว่าเพลงในกล่องนี้ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลยครับ


คงไม่ต้องบรรยายว่าเพลงแบบโมทาวน์เป็นอย่างไร ทุกท่านคงเคยฟังเพลงดังๆอย่าง My Girl ของ Temptations, Stop! In The Name Of Love ของ The Supremes หรือ I Heard It Through The Grapevine ของ Marvin Gaye กันมาแล้ว โมทาวน์ยุคแรกผลิดเพลงฮิตกันเป็นอุตสาหกรรมจริงๆ แทบจะไม่สำคัญว่าศิลปินคนร้องจะเป็นใคร เพราะทุกเพลงต้องผ่านคิวซีของทีมผลิตโมทาวน์มาก่อน นโยบายของโมทาวน์ในยุคนั้นไม่มีการพูดถึงศิลปะหรือการทำเพลงเอาใจตัวเอง ทุกเพลงทุกอัลบั้มมีเป้าหมายอย่างเดียวคือเพลงฮิตติดตลาด เนื้อหาของบทเพลงก็แทบจะเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆล้วนๆ แต่เพลงแบบนี้แหละ ที่อยู่ยงคงกะพันมาจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับเพลงหวานๆโหลๆของ Carpenters ไม่ว่าคุณจะทำเพลงเอาใจตลาดหรือเพลงฟังยากจริงจัง ถ้าคุณภาพของบทเพลงมันดีจริง ผมคิดว่ามันย่อมมีที่ทางในดวงใจของแฟนเพลงอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มีข้อสังเกตนิดนึงว่าการเขียนเนื้อเพลงของโมทาวน์จะมีลักษณะการดำเนินเรื่องคล้ายๆเพลงคันทรี่ของคนขาวอยู่เหมือนกัน ซึ่งทีมแต่งเพลงของค่ายก็ออกมายอมรับ ด้วยเหตุผลที่ว่ามัน “ติดดิน” ดี อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เพลงของค่ายนี้มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ เพลงส่วนใหญ่เล่นแบ๊คอัพด้วยวงดนตรีวงเดียวกันคือ The Funk Brothers


Berry Gordy บิดาแห่งโมทาวน์คือผู้ริเริ่มและประธานตัวจริงตลอดกาลของโมทาวน์ เขาได้ไอเดียในการทำเพลงแบบนี้จากการไปมองสายพานการผลิตรถยนต์ ที่เริ่มจากโครงเปล่าๆก่อน แล้วค่อยๆใส่เครื่องเคราลงไปทีละชิ้น จนเมื่อสุดสายพาน ก็จะได้รถยนต์ที่มีคุณภาพทัดเทียมกันทุกคันไปทุกครั้ง ก็สมดีกับชื่อ Motown ที่มาจาก motor town - เมืองดีทรอยท์ที่ๆค่ายนี้ตั้งอยู่อันเป็นเมืองผลิตรถตัวยงของอเมริกายุคนั้น กอร์ดี้เป็นนักแต่งเพลงมือดีมาก่อนด้วย เขาเป็นนักธุรกิจตัวยงที่มีนโยบาย win-win ในทุกสถานการณ์ การคัดเลือกทีมงานของกอร์ดี้ก็ถือว่าสุดยอด ทั้งการเลือกตัวศิลปิน และนักแต่งเพลง โมทาวน์ในยุค 60's และข้ามมาถึง 70's จึงเป็นโรงงานผลิตเพลงฮิตที่ไม่มีใครกล้าต่อกร


กล่อง Complete #1s นี้ทำเป็นแพ็คเกจใส่ไว้ในกล่องรูปบ้านเล็กๆที่ชื่อว่า Hitsville USA อันจำลองมาจากที่ทำงานดั้งเดิมของค่ายนี้ ไม่น่าเชื่อว่าบ้านเล็กๆนั้นจะเป็นออฟฟิซที่ทำงานทุกอย่างในยุคแรกของโมทาวน์ออกมา คุณภาพเสียงของเพลงในกล่องนี้ผ่านการรีมาสเตอร์เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ แต่หลายๆแทร็คสุ้มเสียงกระจ่างใสและมีน้ำมีนวลมากกว่าที่เคยฟังจากที่ใดๆมาก่อน แม้ว่าซีดีแผ่นหลังๆในกล่องนี้อาจจะไม่มีความคลาสสิกเท่ายุคแรก เพลงก็จะไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ในแบบโมทาวน์เท่าไหร่แล้ว แต่โดยรวมแล้วนี่ก็ยังเป็นกล่องรวมเพลงที่สมบูรณ์ที่สุดชุดหนึ่งครับ ถ้าคิดว่ามันแพงเกินไป ก็ลองไปเลือกหากล่องที่เล็กลงกว่านี้ได้ เห็นมีแบบ 3 หรือ 5 แผ่น ฉลองครบ 50 ปีของค่ายนี้ด้วย


ทุกวันนี้ค่ายโมทาวน์ก็ยังอยู่ดี แม้จะไม่ใช่โรงงานผลิตเพลงฮิตอีกต่อไปแล้ว แต่ก็อย่าประมาทชายชราชื่อ Berry Gordy ในวัย 80 ปี ได้ข่าวว่าเขาเพิ่งกลับมาจากการเกษียณอายุอีกครั้ง เพื่อทำงานกับศิลปินหญิงวัยรุ่นหน้าใหม่ที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแซ่ มีแต่เสียงกระซิบจากเจ้าพ่อโมทาวน์ว่า เธอคนนี้คือปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ถ้าไม่ใช่ราคาคุยก็ต้องจับตามองกันล่ะครับ


ทิ้งท้ายไว้ด้วย 10 เพลงโมทาวน์ที่ผมรักที่สุดครับ และคิดว่ามันคงเป็นตัวแทนของ”เสียงแห่งโมทาวน์” ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนมันต้องเคยเป็นเพลงอันดับ1ที่ไหนสักแห่งในโลกมาก่อน และอยู่รวมในกล่องนี้ด้วย


1.My Guy-Mary Wells
2.My Girl-The Temptations
3.I Second That Emotion-Smokey Robinson
4.I Want You Back-Jackson 5
5.Please Mister Postman-The Marvelettes
6.Let's Get It On-Marvin Gaye
7.For Once In My Life-Stevie Wonder
8.Just My Imagination-The Temptations
9.Penny Lover-Lionel Richie
10.You Are The Sunshine Of My Life-Stevie Wonder

No comments: