เมื่อเรวัต พุทธินันทน์ พลิกโฉมดนตรีไทยด้วยเพลงแค่ 10 เพลง
ในเว็บประวัติและผลงานของพี่เต๋อที่พี่ดี้ทำไว้ให้ http://www.ter-rewat.th.gs/ พี่ดี้เขียนคำนำไว้อย่างน่าสนใจประโยคหนึ่งว่า
"...พี่เต๋อถือได้ว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการเพลงเมืองไทยจากแนวดนตรีแบบสุนทราภรณ์ มาเป็นแนวเพลงในปัจจุบัน.... "
ถ้าประโยคนี้ถูกต้อง มันต้องถือเป็นการก้าวกระโดดอย่างสุดขีดของวงการเพลงไทย จากบอลรูมมิวสิกและเพลงที่ขับร้องแบบสแตนดาร์ด เนื้อเพลงเน้นสัมผัสฉันทลักษณ์เคร่งครัด มาเป็นเพลงป๊อบร็อคหลากหลายที่อุดมไปด้วยอิทธิพลจากแนวดนตรี maintream ของอเมริกันและอังกฤษในยุค60-80 เนื้อหาที่หลุดพ้นจากวงเวียนเดิมๆ และรูปโฉมใหม่ในการเขียนเนื้อเพลงทั้งในแง่โครงสร้างและสัมผัส
ถามว่าก่อนหน้าเต๋อมีคนทำเพลงแบบนี้มาก่อนไหม?
อาจจะมี แต่ไม่มีใครทำแล้วเกิด impact ต่อเนื่องได้เท่าเต๋อ
ภาพรวมของงานเต๋อ-1 ผมเดาใจว่า เต๋อและทีมงานน่าจะต้องมานั่งโต๊ะกลมหลังควันบุหรี่ ถกวางแผนกันไม่มากก็น้อย
ผมคิดว่าพวกเขามีแผนที่จะทำเพลงป๊อบที่แตกต่างจากเพลงอื่นๆในวงการดนตรีไทยขณะนั้น
แต่มีข้อแม้สำคัญ มันต้อง"ขาย"ด้วย
การนำชื่อเล่นของเรวัตมาเป็นชื่อศิลปินและชื่ออัลบั้มแรกการนำสิ่งที่โดดเด่นที่สุดใต้จมูกของเต๋อมาเป็น"โลโก"ถือเป็นการทำงานทางการตลาดที่ได้ผลอย่างเหลือเชื่อ
แต่นั่นคงไม่มีความหมายอะไรถ้า 10 เพลงในเต๋อ-1 ไม่มีคุณค่าเพียงพอ
10 เพลงในอัลบั้มนี้ แทบจะไม่มีแทร็คใดที่ออกแนวเดียวกันเลย แต่ทุกเพลงยึดเหนี่ยวกันไว้ที่โปรดักชั่นที่ให้ซาวนด์ของแบนด์เดียวกัน เนื้อหาของทุกเพลงที่ออกในแนวมองโลกสวยงามให้ความหวัง แม้แต่ในแทร็คที่อ้างว้างเดียวดายอย่างเพลงปิดอัลบั้ม ยิ่งสูงยิ่งหนาว ผู้ฟังก็ยังรู้สึกไม่ท้อแท้ ชีวิตอาจจะเศร้ารันทด แต่เต๋อก็ไม่เคยบอกให้เราหยุดเดิน หรือโดดลงมา
เสียงร้องของเต๋อ เรวัต และวิธีการร้องของเขา ฉีกขนบการร้องเพลงป๊อบไทยๆออกไป อาจจะไม่สิ้นเชิง แต่มันเป็นการร้องแบบที่เราไม่คุ้นเคย เต๋อมีน้ำเสียงที่แหบเล็กน้อย เนื้อเสียงไม่หนา แต่หนักแน่นชัดเจนเข้มข้น ร้องชัดถ้อยชัดคำไม่เน้นการเอื้อนลูกคอ และเต๋อ"กล้า"ที่จะร้องในสไตล์ที่คนไทยอาจจะเขินๆ เช่นเสียง "อือ ฮือ หืม" ในเพลง "สาวเอยจะบอกให้" หรือการ scat ในเพลง "เพื่อนเอย" และผมเชื่อว่ามนุษย์ที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองและบุคลิกที่โดดเด่นเพียงพอ ไม่มีทางร้องท่อน "ฉันมันสุดหล่อ" ในเพลง "อยากรู้นัก" ได้เหมือนเต๋อ
จะกล้าร้องกันหรือเปล่ายังมีปัญหา!
ทีมงานที่ทำดนตรีในเต๋อ-1 คือยอดฝีมือแห่งยุคที่ต่อไปจะเป็นทีมงานสำคัญในการทำดนตรีให้โรงงานผลิตเพลงป๊อบที่ชื่อว่าแกรมมี่ ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค เริ่มมีบทบาทในการเขียนเนื้อเพลงให้ร่วมกับเต๋อในหลายแทร็ค (เพื่อนเอย,หมู่บ้านในนิทาน,ดอกฟ้ากับหมาวัด) พี่ป้อม อัสนี โชติกุล เหมางานภาคกีต้าร์ในอัลบั้มนี้คนเดียว แถมยังเป็นคนแต่งทำนองสองเพลงที่ดีงที่สุดของชุด เจ้าสาวที่กลัวฝน และ ยิ่งสูงยิ่งหนาว การบันทึกเสียงในเต๋อ-1 สู้ชุดต่อๆมาของเขาไม่ได้ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เต๋อไม่ค่อยอยากนำงานนี้มา reissue เท่าไหร่ แต่อารมณ์ของการฟังดนตรีสดๆโดยเฉพาะเสียงกลองแท้ๆ กีต้าร์ไฟฟ้าแตกพร่า ชุดนี้ได้ตรงนั้น มากกว่าเต๋อ-2 หรือ 3
ผมฟังเทปเต๋อ-1 ตอนอยู่ม.4 ความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้ที่กลับมาฟังอีกครั้ง ย่อมต่างกันเป็นธรรมดา แต่เมื่อคุณกลับมาฟังงานที่เคยฟังตอนเด็กๆและทิ้งไปเลยกว่ายี่สิบปี การกลับมาได้ยินมันอีกครั้ง ย่อมกระตุ้นเรียกความทรงจำตอนฟังมันครั้งแรกกลับมาได้ดีกว่าอัลบั้มที่คุณฟังมาตลอด และผมก็มีแต่ความทรงจำดีๆให้เต๋อ-1
เต๋อทักทายคนฟังด้วยเพลงแรกที่แสดงความเป็นคนมองความรักสวยงามของเขา (ที่เต๋อแสดงออกโดยตลอดในงานของเขา) ด้วย "ที่แล้วก็แล้วไป" ซอฟท์ร็อคแบบเวสต์โคสต์ ทำนองโดยคุณ อุกฤษณ์ เต๋อเขียนเนื้อเอง แซ็กฝีมือคุณเทวัญให้อารมณ์รัญจวนนิดๆ แค่คนฟังได้ยินเต๋อลากเสียงคำว่าไม่ แครรรรร แฮ้..... พวกเขาก็ทราบแล้วโดยที่จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามว่านี่ไม่ใช่อัลบั้มป๊อบธรรมดาแน่ๆ เต๋อฉีกไปเล่นเร็กเก้ในเพลงต่อมา "ดอกฟ้ากับหมาวัด" เนื้อโดยเต๋อ/ดี้ ทำนองคุณ จาตุรณ เนื้อเพลงแบบนี้ เข้ากันได้ดีกับดนตรีเร็กเก้เหลือเกิน เต๋อโชว์เรนจ์ในการร้องขึ้นเสียงสูงได้อย่างน่าทึ่ง
"เจ้าสาวที่กลัวฝน" เนื้อโดยเต๋อ ทำนองโดยพี่ป้อม ไม่มีข้อกังขาว่านี่คือความลงตัวที่สุดเพลงหนึ่งของการทำเพลงป๊อบไทย ผลพลอยได้ของเพลงนี้อาจทำให้สาวๆลดสเป็กในการเลือกคู่ลงมาได้อีกหลายระดับ กีต้าร์ของอัสนีโดดเด่นเหลือเกินทั้งการตึคอร์ดเหมือนฝนพรำและท่อนโซโลเปลี่ยนคีย์ที่ฉีกอารมณ์เพลงได้เหมือนฟ้าสว่างหลังฝน
"มือน้อยๆ" กีต้าร์ตัวเดียว เสียงซินธ์เล่นเป็นเครื่องสายบางๆโอบอุ้ม เนื้อหาแอบเซ็กซี่นิดๆแบบผู้ใหญ่หลอกจับมือเด็ก (ฮา) ช่วงการเปลี่ยนคอร์ดในท่อนบริดจ์ "แค่จับมือเธอ..." เต๋อทำได้สุดยอด "เศร้า" เพลงบัลลาดที่เต๋อแต่งเองทั้งหมด (เอ่อ....หมายถึงเต๋อแต่งทั้งเนื้อและทำนองเองหมด..) การมิกซ์เน้นเสียงร้องอย่างเห็นได้ชัด
ผมจำไม่ได้ว่าตอนเป็นเทปมันจบแค่นี้หรือเปล่าสำหรับหน้าเอแต่น่าจะใช่ หน้าสองเริ่มด้วย "อยากรู้นัก" ที่เต๋ออาจจะได้ไอเดียในการเขียนเนื้อเพลงมาจาก When I'm Sixty-Four ของ The Beatles ดนตรีในเพลงนี้เริ่มมีสีสันมากกว่าหน้าแรก ฟังการบรรเลงที่เลียนแบบความชราภาพในบางท่อน และการประสานเสียงแบบ counterpoint หลายซับหลายซ้อนในตอนท้ายเพลงที่ฟังแล้วนึกถึงงานที่เต๋อทำกับคีตกวีในอัลบั้ม "เรามาร้องเพลงกัน" (หมายเหตุ-เพลงนี้ก็น่าจะเป็นเพลงแอบรักเด็กอีกเช่นกัน ไม่งั้นจะกลัวแก่ไปทำไม ถ้าสาวเจ้าเป็นรุ่นเดียวกัน) "สาวเอยจะบอกให้" บูกี้ร็อคแอนด์โรลมาแต่ไกล เป็นอีกครั้งที่เต๋อเสนอคอนเซ็พท์ "รักกันไว้เถิด"ของเขา และต้องยอมรับว่าผู้ชายติดหนวดคนนี้ร้องเพลงร็อคแบบนี้เท่ได้ใจเหลือเกิน น่าแปลกใจที่ทำนองและเรียบเรียงโดยคุณวิชัย อึ้งอัมพร
เพลงที่หนักที่สุดในชุดในแง่ของการเป็นร็อคคือ "เพื่อนเอย" เนื้อโดยเต๋อ/ดี้ เล่าเรื่องราวที่น่าสะเทือนอารมณ์ของผู้ชายสองคนที่ผูกพันกันแต่เด็ก เต๋อร้องด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและจริงใจจนทุกวันนี้ผมก็ยังเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจากชีวิตจริงของเขา แต่ที่น่าเศร้าก็คืออีกไม่กี่ปีต่อมา คนที่ "แกมาจากไป" กลับเป็นตัวเต๋อเอง.... ท่อนคอรัส "ใครอีกเล่าหนา ที่จะหาได้อย่างนี้มีใคร อย่างแกนี้ไม่มีเหมือน นี่แหละเพื่อนจริงใจ" ฟังกี่ทีก็ยังขนลุก
เต๋อคงคิดว่าเพื่อนเอยคือพีคทางอารมณ์ของอัลบั้มแล้วสองแทร็คสุดท้ายจึงผ่อนคลายลง "หมู่บ้านในนิทาน" เล่นแนวโฟล์ค/คันทรี่กันได้ถึงอารมณ์เพลง เนื้อหาก็คือ utopia ดีๆนี่เอง
"ยิ่งสูงยิ่งหนาว" เปียโนบัลลาดจากฝีมือการแต่งของเต๋อ/ป้อม การเปรียบเทียบที่เรียบง่ายแต่กินใจ ท่วงทำนองที่ยอดเยี่ยม และการขับร้องที่สมบูรณ์แบบ อาจจะเร็วไปหน่อยสำหรับการร้องเพลงนี้ของเขา แต่มันก็เป็นเพลงคลาสสิกของวงการเพลงไทยไปแล้วอย่างไร้ปัญหา
เต๋อ-1 และ 10 เพลงในเทปม้วนนี้ ทำให้ผู้ฟังและนักดนตรีไทยจำนวนมหาศาลตระหนักได้ว่า เพลงไทยไม่จำเป็นต้องเดินในแนวเดิมตลอด คุณสามารถทำดนตรีที่แตกต่าง หลากหลายแนวทาง และก็ยังขายได้
ถ้าคุณดีพอ
2 comments:
ครั้งแรกและครั้งเดียว(และอาจจะสุดท้าย) ที่ผมเขียนถึงอัลบั้มเพลงไทย ผมเลิกติดตามเพลงไทยไปนานแล้ว อยากจะกลับมาเหมือนกัน แต่มันขาดการติดต่อจนหาทางเดินกลับไม่เจอแล้วครับ
ขอนุญาตนำไปเผยแพร่ที่ www.thaipopstories.com นะครับ คุณหมอวินส์ อยากให้มีคนอ่านเพิ่มขึ้นอีก ถ้าพอมีเวลาอยากให้ต่อ เต๋อ 2 และ 3
kilroy
Post a Comment