"Twist and Shout"
**********
(from "Revolution In The Head" by Ian Macdonald)
--------------
แต่งโดย Medley-Russell (นามปากกาของ Bert Berns นักแต่งเพลงชาวนิวยอร์ค)
จอห์น-ร้องนำ,ริธึ่มกีต้าร์
พอล-ประสาน,เบส
จอร์จ-ประสาน,ลีดกีต้าร์
ริงโก้-กลอง
บันทึกเสียง- 11 กุมภาพันธ์ 1963 แอบบี้โร้ด 2
หลังจากพวกเขาบันทึกเสียง Baby It's You เรียบร้อยแล้ว นาฬิกาที่สตูดิโอหมายเลขสอง ชี้ไปที่เลขสิบ-สี่ทุ่ม นั่นหมายถึงพวกเขาอัดเสียงก ันมาสิบสองชั่วโมงเต็มๆแล้ว และเวลาอย่างเป็นทางการที่จ องเอาไว้ก็หมดไปแล้วด้วย แต่จอร์จ มาร์ตินยังต้องการอีกหนึ่งเ พลง อะไรสักอย่างที่จะส่งอัลบั้ มนี้ออกไปอย่างระเบิดเถิดเท ิง ระหว่างนั้นจอร์จและทีมงานไ ด้หยุดพักและพากันออกไปที่แ คนทีนของแอบบี้โร้ดเพื่อดื่ มกาแฟแก้วสุดท้าย (หรือในกรณีของจอห์น,นมอุ่น ๆสำหรับคอที่ระบมไปหมดของเข า) พวกเขารู้ว่าเค้าจะต้องทำอะ ไรต่อไป-สิ่งที่เอะอะตึงตัง ที่สุดในการแสดงของ The Beatles :Twist And Shoutเพลงเก่าของศิลปินครอบ ครัวผิวดำจากซินซินเนติ-The Isley Brothers เพลงที่เต็มไปด้วยเสียงกรีด ร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นเพลงที่ถูกแฟนๆเรียก ร้องเสมอ แต่สำหรับคืนนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเล ่นเพลงนี้เลย
กลับมาที่สตูดิโอหมายเลขสอง ,พวกเขาทราบดีว่ามีโอกาสอย่ างมากแค่สองครั้งในการที่จะ บันทึกเสียงเพลงหฤโหดนี้ลงใ นม้วนเทป ก่อนที่เสียงของจอห์นจะไม่เ หลือ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง ,จอห์นปลดเสื้อของเขาลงถึงเ อว ขณะที่คนอื่นๆกระตุ้นตัวเอง ด้วยการให้สตาฟฟ์ในคอนโทรลร ูมรับบทเป็น"ผู้ชม"ให้, พวกเขาเริ่มบทเพลง มันเป็นการร้องบรรเลงที่เฉี ยบขาดและพลุ่งพล่าน สร้างความตะลึงงันให้บรรดาเ ทคนิเชียนทั้งหมดในห้องอัด พวกบีทเทิ่ลส์เองก็รู้สึกเบ ิกบานไปด้วย (ตอนท้ายเพลงจะได้ยินพอลแหก ปากร้อง 'Hey!' อย่างสะใจ) พวกเขาพยายามจะเล่นอีกเทค แต่ก็พบว่าจอห์นไม่เหลือเสี ยงอะไรออกมาจากลำคออีกแล้ว ในที่สุดเซสชั่นอันยาวนานก็ จบลงแค่นั้น แต่ดูเหมือนบรรยากาศในสตูดิ โอยังร้อนระอุอยู่ ไม่เคยมีการบันทึกเสียงอะไร เข้มข้นขนาดนี้มาก่อนใน British Pop Studio
คล้ายๆกับที่พวกเขาทำในการเ ล่นเพลง Boys ในเพลงนี้พวกเขาเรียบเรียงท ่อนเบสให้แจ่มชัดขึ้นโดยเน้ นเป็นท่อนริฟฟ์และเสริมด้วย เสียงลีดกีต้าร์ของจอร์จเข้ าไปอีก และอาจจะกล่าวได้ว่านี่เป็น การเล่นกลองที่เลิศเลอที่สุ ดในอัลบั้มนี้ของริงโก้-เขา ฟาดมันอย่างถึงพริกถึงขิงเป ็นต้นแบบของเฮฟวี่เมทัลได้เ ลย The Beatles กลายร่างมาเป็นเครื่องจักรก ระหน่ำดนตรีไปแล้ว!
ในเวอร์ชั่นของ The Isley Brothers เสียงเบสจะดูหลวมกว่า และภาพรวมจะวุ่นวายด้วยเสีย งแซ็กและทรัมเป็ตแบบละติน The Beatles ลดคีย์ลง จอห์นหลีกเลี่ยงเสียงร้องบี บเล็กหวีดหวิวอันเหนือชั้นใ นแบบเดิมของโรนัลด์ ไอซ์ลี่ย์ มาเป็นการร้องแบบอ่อนไหวใส่ อารมณ์น้อยลงแต่ท้าทายดุดัน แบบวายร้ายยิ่งขึ้น ด้วยเสียงแหบกร้านของเขา 'C'mon, c'mon, c'mon, c'mon, baby, now!'มันช่างสร้างความคลั่ง ไคล้ให้แฟนเพลงผิวขาวสาวๆใน ปี1963ยิ่งนัก
ใครที่เคยฟังพวกเขาเล่นในยุ คที่พวกเขายังแสดงในคลับมัก ยืนยันว่าจอร์จ มาร์ตินไม่อาจ"จับ"เสียงสดๆ ของเขาได้ มันก็เป็นความจริง แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคุณ ภาพในการบันทึกเสียงของห้อง อัดในอังกฤษที่ไม่สามารถบัน ทึกเสียงเบสอันจำเป็นสำหรับ ร็อคแอนด์โรลได้ดีพอ ใน Twist And Shout มาร์ตินก็พยายามจะแก้ไขจุดน ี้โดยเงยหน้ากลองและปรับเกน บันทึกเสียงให้สูงขึ้นเพื่อ ให้ได้บรรยาการอบๆ[ambience ]มากขึ้น แม้จะทำเช่นนั้นแล้ว เสียงก้องกระหึ่มของวงที่ออ กมาจากขีดสุดของแอมป์ Vox AC30ก็ถูกบันทึกไว้เป็นบางส ่วนเท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็เป็นความยิ่ งใหญ่แห่งห้วงเวลาแล้ว ด้วยความดิบที่ไม่มีศิลปินผ ิวขาวใดๆจะมาเทียบได้ และด้วยความป่าเถื่อนกว่าที ่"ผู้ใหญ่"จะยอมรับ ด้วยประการฉะนี้ มันจึงประหนึ่งเป็นสัญลักษณ ์ของการแสดงของBeatles ในยุค Beatlemania: บทเพลงที่ไม่ว่าผู้ปกครองที ่ใจกว้างขนาดไหนก็ยังหวาดผว า
**********
(from "Revolution In The Head" by Ian Macdonald)
--------------
แต่งโดย Medley-Russell (นามปากกาของ Bert Berns นักแต่งเพลงชาวนิวยอร์ค)
จอห์น-ร้องนำ,ริธึ่มกีต้าร์
พอล-ประสาน,เบส
จอร์จ-ประสาน,ลีดกีต้าร์
ริงโก้-กลอง
บันทึกเสียง- 11 กุมภาพันธ์ 1963 แอบบี้โร้ด 2
หลังจากพวกเขาบันทึกเสียง Baby It's You เรียบร้อยแล้ว นาฬิกาที่สตูดิโอหมายเลขสอง
กลับมาที่สตูดิโอหมายเลขสอง
คล้ายๆกับที่พวกเขาทำในการเ
ในเวอร์ชั่นของ The Isley Brothers เสียงเบสจะดูหลวมกว่า และภาพรวมจะวุ่นวายด้วยเสีย
ใครที่เคยฟังพวกเขาเล่นในยุ
No comments:
Post a Comment