Friday, 20 March 2015

Twist and Shout

"Twist and Shout"

**********

(from "Revolution In The Head" by Ian Macdonald)

--------------

แต่งโดย Medley-Russell (นามปากกาของ Bert Berns นักแต่งเพลงชาวนิวยอร์ค)
จอห์น-ร้องนำ,ริธึ่มกีต้าร์
พอล-ประสาน,เบส
จอร์จ-ประสาน,ลีดกีต้าร์
ริงโก้-กลอง
บันทึกเสียง- 11 กุมภาพันธ์ 1963 แอบบี้โร้ด 2

หลังจากพวกเขาบันทึกเสียง Baby It's You เรียบร้อยแล้ว นาฬิกาที่สตูดิโอหมายเลขสองชี้ไปที่เลขสิบ-สี่ทุ่ม นั่นหมายถึงพวกเขาอัดเสียงกันมาสิบสองชั่วโมงเต็มๆแล้ว และเวลาอย่างเป็นทางการที่จองเอาไว้ก็หมดไปแล้วด้วย แต่จอร์จ มาร์ตินยังต้องการอีกหนึ่งเพลง อะไรสักอย่างที่จะส่งอัลบั้มนี้ออกไปอย่างระเบิดเถิดเทิง ระหว่างนั้นจอร์จและทีมงานได้หยุดพักและพากันออกไปที่แคนทีนของแอบบี้โร้ดเพื่อดื่มกาแฟแก้วสุดท้าย (หรือในกรณีของจอห์น,นมอุ่นๆสำหรับคอที่ระบมไปหมดของเขา) พวกเขารู้ว่าเค้าจะต้องทำอะไรต่อไป-สิ่งที่เอะอะตึงตังที่สุดในการแสดงของ The Beatles :Twist And Shoutเพลงเก่าของศิลปินครอบครัวผิวดำจากซินซินเนติ-The Isley Brothers เพลงที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นเพลงที่ถูกแฟนๆเรียกร้องเสมอ แต่สำหรับคืนนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเล่นเพลงนี้เลย

กลับมาที่สตูดิโอหมายเลขสอง ,พวกเขาทราบดีว่ามีโอกาสอย่างมากแค่สองครั้งในการที่จะบันทึกเสียงเพลงหฤโหดนี้ลงในม้วนเทป ก่อนที่เสียงของจอห์นจะไม่เหลือ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง ,จอห์นปลดเสื้อของเขาลงถึงเอว ขณะที่คนอื่นๆกระตุ้นตัวเองด้วยการให้สตาฟฟ์ในคอนโทรลรูมรับบทเป็น"ผู้ชม"ให้, พวกเขาเริ่มบทเพลง มันเป็นการร้องบรรเลงที่เฉียบขาดและพลุ่งพล่าน สร้างความตะลึงงันให้บรรดาเทคนิเชียนทั้งหมดในห้องอัด พวกบีทเทิ่ลส์เองก็รู้สึกเบิกบานไปด้วย (ตอนท้ายเพลงจะได้ยินพอลแหกปากร้อง 'Hey!' อย่างสะใจ) พวกเขาพยายามจะเล่นอีกเทค แต่ก็พบว่าจอห์นไม่เหลือเสียงอะไรออกมาจากลำคออีกแล้ว ในที่สุดเซสชั่นอันยาวนานก็จบลงแค่นั้น แต่ดูเหมือนบรรยากาศในสตูดิโอยังร้อนระอุอยู่ ไม่เคยมีการบันทึกเสียงอะไรเข้มข้นขนาดนี้มาก่อนใน British Pop Studio

คล้ายๆกับที่พวกเขาทำในการเล่นเพลง Boys ในเพลงนี้พวกเขาเรียบเรียงท่อนเบสให้แจ่มชัดขึ้นโดยเน้นเป็นท่อนริฟฟ์และเสริมด้วยเสียงลีดกีต้าร์ของจอร์จเข้าไปอีก และอาจจะกล่าวได้ว่านี่เป็นการเล่นกลองที่เลิศเลอที่สุดในอัลบั้มนี้ของริงโก้-เขาฟาดมันอย่างถึงพริกถึงขิงเป็นต้นแบบของเฮฟวี่เมทัลได้เลย The Beatles กลายร่างมาเป็นเครื่องจักรกระหน่ำดนตรีไปแล้ว!

ในเวอร์ชั่นของ The Isley Brothers เสียงเบสจะดูหลวมกว่า และภาพรวมจะวุ่นวายด้วยเสียงแซ็กและทรัมเป็ตแบบละติน The Beatles ลดคีย์ลง จอห์นหลีกเลี่ยงเสียงร้องบีบเล็กหวีดหวิวอันเหนือชั้นในแบบเดิมของโรนัลด์ ไอซ์ลี่ย์ มาเป็นการร้องแบบอ่อนไหวใส่อารมณ์น้อยลงแต่ท้าทายดุดันแบบวายร้ายยิ่งขึ้น ด้วยเสียงแหบกร้านของเขา 'C'mon, c'mon, c'mon, c'mon, baby, now!'มันช่างสร้างความคลั่งไคล้ให้แฟนเพลงผิวขาวสาวๆในปี1963ยิ่งนัก

ใครที่เคยฟังพวกเขาเล่นในยุคที่พวกเขายังแสดงในคลับมักยืนยันว่าจอร์จ มาร์ตินไม่อาจ"จับ"เสียงสดๆของเขาได้ มันก็เป็นความจริง แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคุณภาพในการบันทึกเสียงของห้องอัดในอังกฤษที่ไม่สามารถบันทึกเสียงเบสอันจำเป็นสำหรับร็อคแอนด์โรลได้ดีพอ ใน Twist And Shout มาร์ตินก็พยายามจะแก้ไขจุดนี้โดยเงยหน้ากลองและปรับเกนบันทึกเสียงให้สูงขึ้นเพื่อให้ได้บรรยาการอบๆ[ambience]มากขึ้น แม้จะทำเช่นนั้นแล้ว เสียงก้องกระหึ่มของวงที่ออกมาจากขีดสุดของแอมป์ Vox AC30ก็ถูกบันทึกไว้เป็นบางส่วนเท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็เป็นความยิ่งใหญ่แห่งห้วงเวลาแล้ว ด้วยความดิบที่ไม่มีศิลปินผิวขาวใดๆจะมาเทียบได้ และด้วยความป่าเถื่อนกว่าที่"ผู้ใหญ่"จะยอมรับ ด้วยประการฉะนี้ มันจึงประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงของBeatles ในยุค Beatlemania: บทเพลงที่ไม่ว่าผู้ปกครองที่ใจกว้างขนาดไหนก็ยังหวาดผว

No comments: