Saturday, 21 March 2015

"คุยมันส์ๆกับสตีฟ ฮอฟฟ์แมน" (ตอน1)


ถอดความจากเว็บไซต์ monoandstereo.com ไม่แน่ใจว่าบทสัมภาษณ์นี้มีมานานแค่ไหนแล้วนะครับ แต่คาดว่าน่าจะประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวบางอย่างอาจจะไม่อัพเดท แต่เนื้อหาส่วนใหญ่น่าสนใจและคิดว่าน่าจะให้ประโยชน์และข้อคิดกับคนรักดนตรีและเครื่องเสียงพอสมควรครับ (หมายเหตุ--ไม่ได้แปลมาทั้งหมดนะครับ)
---------------
สตีฟ ฮอฟฟ์แมนมิใช่เป็นเพียงแค่ตำนานตัวจริงในวงการออดิโอไฟล์เท่านั้น เขายังเป็นคนที่มีหัวใจเปิดกว้างที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยพูดคุยด้วย เขาเลี้ยงชีพอยู่ได้ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ต่อเสียงดนตรี ถ้าคุณคุ้นเคยกับอัลบั้มaudiophileของ DCC นั่นก็แปลว่าคุณรู้จักสตีฟแล้ว เขาเป็นนักมายากลแท้ๆเมื่อว่ากันที่เรื่องของการให้ลมหายใจแห่งชีวิตแก่เสียงดนตรี เราจะได้ยินผลงานของเขาได้ในอัลบั้มอย่าง Hotel California ของ Eagles, Highway 61 Revisited ของ Bob Dylan และ Blue ของ Joni Mitchell
----------
ถาม-อะไรที่ลากคุณเข้ามาสู่วงการออดิโอและมันเริ่มที่ตรงไหน?
สตีฟ-ผมทำงานในวงการวิทยุตั้งแต่เรียนไฮสคูลและหลังจากนั้นก็กระโดดเข้ามาในบริษัทแผ่นเสียงแห่งหนึ่งเลยและก็ค่อยๆไต่ขึ้นมาด้วยตัวเอง ผมเริ่มทำงานมาสเตอริ่งในปี 1982 เมื่อผมรู้สึกไม่พอใจกับงานมาสเตอร์ของเหล่าวิศวกรที่ทำกับงานรวมเพลงของผม....
ถาม-คุณคิดว่าวงการ audiophile mastering เริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่?
สตีฟ-Mobile Fidelity Sound Labs เริ่มต้นมันในยุคทศวรรษ 70's ด้วยซีรีส์ half-speed mastered ของพวกเขาในการรีอิชชูแผ่นเสียงดังๆ
ถาม-คุณคิดว่าตัวคุณเองเป็นออดิโอไฟล์ไหม?
สตีฟ-เป็นสิ,แน่นอน!
ถาม-นักฟังทั่วไปมักกระเสือกระสนกันเพื่อหาความสมบูรณ์แบบของการฟังดนตรีจากเครื่องเสียง คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมที่เราจะฟังดนตรีที่มีคุณภาพด้วยเครื่องเสียงราคาปานกลางที่ชาวบ้านทั่วไปพอจะเอื้อมถึง?
สตีฟ-แน่นอนว่าเป็นไปได้ เราควรจะสามารถได้ยินความแตกต่างได้ในเครื่องเสียงที่เรียบง่ายที่สุด
ถาม-บางคนบอกว่าพวกแผ่นอดิโอไฟล์นั้นมันทำมาเพื่อกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้?
สตีฟ-audiophile pressings ควรจะทำเพื่อทุกๆคน มันเป็นความฝันของผม แต่น่าเสียดายที่ราคาของแผ่นมันกลับสูงเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่อยากจะจ่าย เหตผลก็คือค่ายเพลงเล็กๆต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ค่ายใหญ่ๆเพื่อทำแผ่นแบบนี้ และค่าใช้จ่ายนี้ก็จะแพงเสมอ!
ถาม-ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีหูฟังและแอมป์หูฟังที่มีคุณภาพออกมามากมาย และนักฟังจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆก็สามารถเอื้อมถึง"คำตอบ"นี้ คุณฟังเพลงผ่านหูฟังบ้างไหมและคุณรู้สึกอย่างไรกับปรากฏการณ์นี้ คุณคิดว่าความมหัศจรรย์แห่งเสียงจะเกิดขึ้นได้กับหูฟังไหม?
สตีฟ-ผมพยายามจะไม่ฟังเพลงผ่านหูฟัง ผมพบว่ามันไม่เป็นธรรมชาติและน่ารำคาญสิ้นดี แน่นอน,ตอนผมทำงานวิทยุอยู่หลายปีนั้นผมก็ใส่หูฟังทั้งวัน ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าผมเอียนมันเต็มทนแล้ว!
ถาม-ระหว่างทรานซิสเตอร์กับหลอด คุณอยู่ข้างไหน?
สตีฟ-ผมเป็นชาวหลอดนะ เครื่องเคราของผมอันไหนถ้าเป็นหลอดได้ผมจะเลือกเป็นหลอดทั้งหมด!
ถาม-คุณมีชุดเครื่องเสียงในฝันไหม,ถ้ามันมีสิ่งนั้นจริงๆ?
สตีฟ-ชุดในฝัน? ผมตอบไม่ได้เพราะผมยังไม่ได้ฟังทุกอย่างทั้งหมดและผมก็ไม่มีทางทำได้! ถ้ามันทำให้ดนตรีมีเสียงออกมาประหนึ่งมีชีวิตและเป็นจริง นั่นแหละคือชุดในฝันสำหรับผม!
ถาม-คุณจำได้ไหมว่ามีชุดเครื่องเสียงไหนที่ทำให้คุณทึ่งสุดๆในแง่ของคุณภาพเสียง?
สตีฟ-ที่ Universal Studios ที่พวกเขาจัดไว้ที่ห้อง Main Projection นั้นเสียงดีจริงๆ และเป็นงานโฮมเมดล้วนๆด้วยสิ
ถาม-คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมที่เราจะทำให้เครื่องเสียงฟังออกมาเหมือนดนตรีเล่นสดจริงๆ?
สตีฟ-ไม่นะ และนั่นไม่ควรจะเป็นเป้าหมาย เราควรจะเน้นในจุดที่ว่าเราจะทำดนตรีในหลายๆรูปแบบนั้นให้ฟังออกมาดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การที่จะนำวงซิมโฟนีมาอัดเสียงให้ออกมาเหมือนวงมาเล่นสดในห้องที่บ้านของคุณนั้นเป็นหนทางสู่ความวิกลจริต!
ถาม-อะไรเป็นเป้าหมายของคุณในการทำมาสเตอริ่ง อะไรที่คุณอยากให้ผู้ฟังได้รับ?
สตีฟ-คำของผมก็คือ "ลมหายใจของชีวิต" ถ้ามันให้เสียงเหมือนกับว่ามีคนที่มีชีวิตและหายใจอยู่กำลังเล่นดนตรีให้คุณฟังแทนที่จะเป็นการบันทึกเสียง นั่นแปลว่าผมทำงานสำเร็จแล้ว
ถาม-ดนตรีที่ผมรักส่วนมากจะบันทึกเสียงกันในช่วงปี 50's-70's และเครื่องไม้เครื่องมือในสมัยนั้นก็มักจะเป็นเครื่องหลอดเป็นหลัก คุณคิดว่านั่นทำให้มันมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์รวมทั้งอารมณ์ต่างๆของการบันทึกเสียงหรือไม่?
สตีฟ-ใช่,นั่นเป็นยุคทองของการบันทึกเสียงอนาล็อกโดยแท้และผมก็เกิดไม่ทันมัน ทุกวันนี้ใครๆก็อัดเสียงกันได้และมันก็ส่งผลให้คุณภาพของมันตกต่ำ ผมเคยได้ยินการบันทึกเสียงทีแสนงดงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจาก
เมื่อ50ปีก่อน เสียงมันมหัศจรรย์เหลือเกิน!
ถาม-ตอนนี้เครื่องไม้เครื่องมือในการอัดเสียงแบบอนาล็อกตกยุคไปหมดหรือยัง?
สตีฟ-ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น แต่ก็มีสตูดิโอรวยๆบางแห่งยังใช้มันอยู่ แต่ในเมื่อไม่มีใครทำเครื่องแบบนี้ออกมาอีกแล้วถ้าเกิดเครื่องอัดเทปเกิดเจ๊งขึ้นมาตอนอัดๆอยู่นั่นก็อาจเป็นหายนะ! อีกไม่นานของพวกนี้ก็จะกลายเป็นอดีต,ผมกลัวอย่างนั้นนะ
ถาม-คุณคิดยังไงกับ SACD? คิดว่ามันจะอยู่ได้นานไหมหรือจะมีฟอร์แมตใหม่ๆที่สูงกว่าเข้ามาแทนที่?
สตีฟ-SACD มันก็โอเค แต่มันไม่ติดตลาดแล้วจะไปยุ่งกับมันทำไม? ยกเว้นค่ายเพลงใหญ่ๆจะมาอุ้มมันนั่นแหละ ไม่งั้นมันก็รอวันตายได้
ถาม-คุณคิดว่า CD นี่เป็นความผิดพลาดหรือไม่? และมันเชยไปแล้วหรือยัง?
สตีฟ-ความผิดพลาด? ไม่หรอก,แค่มันถูกทำออกมาลวกๆไปหน่อย ผมเคยฟังซีดีที่ให้เสียงเยี่ยมๆ มันอยู่ที่การทำมาสเตอร์! อีกห้าปีซีดีจะตายสนิท!
ถาม-คุณรู้สึกยังไงกับดิจิทัลดาวน์โหลดและยุคใหม่ทั้งหมดของวงการดิจิทัล?
สตีฟ-ดิจิทัลดาวน์โหลดทำให้ผมเบื่อหน่าย มันไม่มีอะไรเซ็กซี่เลยซักนิด!
ถาม-แล้วไวนีลล่ะ มันจะอยู่ต่อไป หรือจะอยู่ในวงแคบๆของคนรักเสียงเพลงจริงๆ?
สตีฟ-ไวนีลทำให้ผมประหลาดใจเสมอ ผมคิดไม่ออกว่าจะเกิดอะไรกับมันต่อไป ที่มันยังอยู่กับเราทุกวันนี้ผมก็แปลกใจแล้ว แต่LP ดีๆสามารถให้เสียงที่ดีอย่างเหลือเชื่อ อย่างที่คุณก็คงทราบดี

No comments: