Saturday 29 November 2008

Chinese Democracy ****


Guns N’ Roses Chinese Democracy ****

ครั้งสุดท้ายที่ Guns N' Roses ออกอัลบั้มที่เป็นเพลงออริจินัลออกมาคือในปี 1991 กับอัลบั้มคู่ที่มีเพลงแน่นขนัด (ตัดเป็นแผ่นเสียงได้สามชุด) Use Your Illusion 1+2 สมัยนั้นนายกฯเรายังชื่อ อานันท์ ปันยารชุน และจวบจนวันนี้ 2008...ฟุตบอลโลกก็ผ่านไปแล้ว4สมัย....ส่วนนายกฯ ...ใครก็ได้ช่วยนับที

แฟนเพลงทุกคนรู้เรื่องราวหลังจากนั้นกันดี Chinese Democracy เป็นอัลบั้มที่มีประวัติศาสตร์การทำงานยาวเหยียด นานพอที่จะทำให้ Axl Rose ไล่ original members ออกไปเกือบหมด (เหลือมือคีย์บอร์ด Dizzy Reed คนเดียวที่รอดมาได้อย่างเหลือเชื่อ) รวมทั้งสมาชิกใหม่ๆก็เดินสายเข้าออกกันราวกับมาชอปปิ้ง มันผ่านข่าวลือและ deadline นับครั้งไม่ถ้วน จากการเป็นอัลบั้มที่โลกจดจ่อรอคอยจนหลายปีให้หลังกลายเป็นโจ๊กเศร้าๆในวงการดนตรีเวลาที่ใครทำอะไรไม่เสร็จเสียทีก็มักจะยกมันขึ้นมาแซว ถึงขั้นที่หลายคนเชื่อว่าประเทศจีนอาจจะมีประชาธิปไตยจริงๆก่อนอัลบั้มนี้ออกเสียล่ะมั้ง (แต่ที่แน่ๆประเทศจีนสั่งแบนอัลบั้มนี้ไม่ให้วางขายในประเทศเรียบร้อยโรงเรียน...จีนไปแล้ว)

แต่นั่นก็ไม่สำคัญ... ไม่ว่าอัลบั้มนี้จะใช้เวลาสร้างนานแค่ไหน หรือแอกเซิลจะใช้เงินและนักดนตรีไปเท่าไหร่ ประเด็นสำคัญคือ มันออกมาแล้ว Chinese Democracy อัลบั้มที่ต้องแบกความกดดันมหาศาล เราควรตัดสินมันที่คุณภาพดนตรีโดยไม่ต้องไปคิดดอกเบี้ยย้อนหลังกับเวลาที่หายไป เพราะแอกเซิลไม่ได้ยืมเงินคุณไปบันทึกเสียงเสียหน่อย (แต่มันก็อาจจะไม่ใช่เงินเขา)

แม้ว่าจะเหลือสมาชิกหลักคือเขาคนเดียว แต่ Chinese Democracy ก็ยังคงมีซาวนด์ของ Guns N' Roses มากกว่าวงดนตรีอื่นใดในโลก (รวมทั้ง Velvet Revolver) มันคือการเดินทางต่อจาก Use Your Illusion ซาวนด์กีต้าร์ดิบๆและจังหวะแบบ boogie-rock-and-roll หายไปพร้อมๆกับ Slash คงเหลือแต่ความอลังการอู้ฟู่สุดขั้วสุดขีดทางอารมณ์ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแอกเซิล แต่ถ้าเป็นไปได้ แอกเซิลคงอยากให้ Slash ยังอยู่ เพราะพาร์ทกีต้าร์เด็ดๆในหลายเพลงล้วนแล้วแต่เป็น"ทาง"ของนายหัวฟูทั้งสิ้น ขอแสดงความเสียใจไว้ตั้งแต่ตรงนี้สำหรับผู้หวังซาวนด์แบบอัลบั้มแรกในปี 1987 Appetite For Destruction โรสมาไกลเกินกว่าจะกลับไปจุดนั้นแล้ว

Industrial sound แบบ Nine Inch Nails ที่แผ่ซ่านในเพลงสุดท้ายของ GN’R ก่อนหน้าอัลบั้มนี้ Oh My God ที่เป็นซาวนด์แทร็คของหนัง End Of Days (1999) ยังคงพอให้ได้ยินเป็นระยะๆ สลับไปกับซาวนด์ Nu-metal อย่าง Korn และ Linkin Park!

Chinese Democracy มีเพลง 14เพลง แต่ยาวถึง 71นาทีกว่าๆ แทบทุกเพลงยาวเหยียด5-7นาที พอจะสรุปได้ว่าเวลาที่เขาสูญเสียไปอยู่ที่การพยายามทำทุกเพลงให้ perfect ที่สุด ว่ากันว่าแค่เสียงกลองใน title track ที่แอกเซิลอยากให้เหมือนที่ Dave Grohl ฟาดไว้ใน Smell Like Teen Spirit ก็ต้องใช้เวลาสร้างสรรค์และค้นหากันถึงกว่าหกเดือน! หลายต่อหลายเพลงมีโครงสร้างไม่เหมือนเพลงป๊อบร็อคหรือเมตัลธรรมดาๆ คุณจะพบบัลลาดที่ไร้คอรัส การโซโลที่กระจายไปทั่วเพลงทั้งกีต้าร์ไฟฟ้า กีต้าร์สแปนิช เครื่องเป่า เครื่องสายที่ร่ายรำอย่างไม่ไยดีกาละและเทศะ จนบางทีเหมือนว่ามันนึกอยากใส่อะไรก็ใส่เข้ามาหมด 14 ปีกับ 14 เพลงอาจจะแสนนานสุดเวอร์ แต่สำหรับอัจฉริยะกึ่งบ้าอย่าง W. Axl Rose อาจจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำสำหรับการไล่จับเสียงในจินตนาการของเขาให้ออกมาเป็นตัวตน

เมื่อเทียบกับ Use Your Illusions แล้ว Chinese Democracy จึงฟังยากกว่าและต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักกับมันมากขึ้น แต่รับรองว่าคงไม่ต้องฟังกันนานเป็นสิบปีถึงจะเข้าถึง

เปิดอัลบั้มด้วยไทเทิลแทร็คและซิงเกิ้ลเปิดตัว Chinese Democracy **** เริ่มด้วยเสียงคีย์บอร์ดเวิ้งว้าง....เสียงพูดคุยเบาๆเป็นภาษา..น่าจะจีน ...ท่อนริฟฟ์กระชั้นสั้นหนัก...และเรารู้สึกว่านี่คืออัลบั้มของ GN’R ในที่สุดเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องตัดหมอกที่เราคุ้นเคยของ Axl ในวัย 46 ปี เขายังรักษาความแหลมคมและแสบสันต์ของน้ำเสียงนรกประทานเอาไว้ได้อย่างน่าชมเชย นี่เป็นแทร็คที่ประกาศก้องถึงความยิ่งใหญ่และทรงพลัง สบายใจได้สำหรับผู้ที่ห่วงว่า Chinese Democracy จะเต็มไปด้วยเพลงบัลลาดแหววๆ ต่อกันด้วย Shackler's Revenge *** ที่มีทุกอย่างที่เหมาะสำหรับการเป็นเพลงประกอบ Computer Game ทั้งจังหวะและเสียงกีต้าร์ และมันก็เป็นซาวนด์แทร็คของเกม Rock Band 2 จริงๆด้วย

Better ***** ซิงเกิ้ลที่สอง เริ่มต้นด้วยดรัมลูปแบบเมทัลลิกและเสียงร้องแบบโรบ็อต ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเพลงที่เป็น GN’R classic... เมโลดี้งดงามและค่อยๆสร้างอารมณ์เข้าสู่ความหนักหน่วงดุดันขึ้นตามลำดับ ในเวลาเกือบห้านาทีมีอะไรเกิดขึ้นมากมายสุดจะคาดเดา นี่เป็นตัวอย่างของการทำเพลงไม่ยึดติดสูตรสำเร็จแต่ก็ยังฟังติดหูได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพลงที่สี่...คงถึงเวลาที่ต้องเอาใจแฟนๆกันแล้ว Street Of Dreams **** (ชื่อเดิม “The Blues”) โหงวเฮ้งน่าจะเป็น November Rain ของอัลบั้มได้ ทำนองเด็ดขาดแบบนี้พลาดยาก แต่ฟังๆไปมันอาจจะหนักเกินกว่าที่จะเป็นเพลงขวัญใจประชานิยมอย่าง "ฝนพฤศจิก"เมื่อ 17 ปีก่อนนั้น โซโลกีต้าร์กลางเพลงโดย Buckethead เจิดจ้าระยับระยิบกับออเคสตร้ากระหึ่มก้อง ขณะที่ November Rain ประหนี่งฝนพรำในลมหนาวปวดร้าวน้ำตาพรั่ง Street Of Dreams กระหน่ำหนักเป็นเฮอริเคนม้วนเดียวจบตายคาที่!

ถ้ายังจำเพลงแรปอุบาทว์ๆ My World จาก Use Your Illusion II กันได้ If The World ****เหมือนจะเป็นการแก้ตัวของแอกเซิล นี่อาจเป็นเพลงเดียวในอัลบั้มที่ไมเคิล แจ็คสันอาจจะนำไปร้องได้ แตกต่างจากเพลงอื่นและถือว่าเป็นการพักหู กลองไฟฟ้าเดินเรื่องไปกับกลองมนุษย์ กีต้าร์สแปนิช กีต้าร์ไฟฟ้า เครื่องสาย คีย์บอร์ด-ลูป และเสียงร้องที่น่าจะเรียกได้ว่า"อ้อน"ที่สุดในอัลบั้มของโรส There Was A Time ***** มันเป็นเพลงที่ถ้าคุณไม่รักมันก็จะเกลียดไปเลย บัลลาดมหากาพย์ที่ไร้คอรัสที่แท้จริง เริ่มด้วยเสียงวงไควร์เคว้งคว้างและโรสร้องไปกับดรัมลูป เครื่องสายกรีดกรายเข้ามา ชักชวนเสียงกลองและกองทัพกีต้าร์ไม่ทราบกำลังพลเดินเท้าเข้ากระหน่ำ โรสร้องเพลงนี้ได้สุดเสียงสังข์ ทุกวลีจากปากราวกับมาจากความรวดร้าวที่ลึกล้ำสุดบรรยาย Buckethead มือกีต้าร์จอมเพี้ยนผู้ฝักใฝ่ในผู้พันแซนเดอร์สฝากฝีมือโซโลไว้อย่างยิ่งใหญ่ Robin Finck ออกมาร่ายมนต์โซโลก่อนในลีลางดงามล่องลอยและปวดร้าว ก่อนที่พ่อหัวเคเอฟซี (Buckethead จะใส่ถังใส่ KFC เป็นหมวกไว้บนหัวเสมอ)จะออกมาสรุปคดีขยี้ปิดศาลในนาทีที่ 4:25 แอกเซิลปล่อยให้เขาใส่ยาวเหยียด มันคือการโซโลที่ดีที่สุดในอัลบั้ม และอาจจะเป็นการโซโลแห่งปี 2008 เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงปิดอัลบั้ม เพราะมันเรียกความรู้สึกว่าไม่ควรมีอะไรต่อจากนี้อีกแล้วหลังจากจบเพลงด้วยเสียงวงไควร์เดิมอีกครั้ง...

ผมคิดว่านั่นเป็นการจบภาคแรกของอัลบั้ม ถ้าไม่เหนื่อยเกิน...ต่อกันที่เพลงที่เจ็ด... Catcher In The Rye ***** ชื่อเพลงมาจากวรรณกรรมคลาสสิกของ J.D. Salinger ที่ดันเป็นหนังสือโปรดสุดๆของผมด้วย โครงสร้างและการเรียบเรียงจัดว่า conservative เมื่อเทียบกับเพลงอื่นๆ ท่อนโซโลที่เคยเป็นของ Brian May คือจุดเด่นแม้จะเปลี่ยนคนเล่นเป็น Bumblefoot และ Robin Finck (มือกีต้าร์วงควีนเคยเข้ามาร่วมบันทึกเสียงด้วยในเพลงนี้ แต่ภายหลังพาร์ทของเขาถูกลบไป) นี่คือเพลงป๊อบที่สุดในอัลบั้ม แต่มันก็ยาวเลยเถิดไปเกือบห้านาที นักวิจารณ์บางคนบอกว่า แอกเซิลมันดูเหมือนจะไม่รู้ว่าจะหยุดตรงไหน ทุกอย่างดูมากเกินไป หรือว่าน้อยเกินไปทั้งนั้นในอัลบั้มนี้ เห็นด้วยครับ แอกเซิลเลือกที่จะทำงานตามใจตัวเอง ไม่ play safe แบบ AC/DC ที่เหมือนเดิมเป๊ะๆ

Scraped *** อินโทรอะแคปเปลลาฟังดูประหลาดยิ่งก่อนที่จะกลายเป็นร็อคแรงๆแบบ Locomotive ในอัลบั้ม Use Your Illusion II Sorry *** บัลลาดอารมณ์สยดสยองที่กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆอย่างรวดเร็ว (จากโพลล์ใน chinesedemocracy.com) ว่ากันว่าแอกเซิลแต่งเพลงนี้เพื่อกัด Slash โดยเฉพาะ เป็นไปไม่ได้เลยที่ในคอนเสิร์ตแฟนๆจะไม่แหกปากร้องตามในท่อนคอรัส I'm sorry for you.... not sorry for me... Buckethead solo ได้เด็ดขาดอีกครั้ง น่าเสียดายที่เขาถูกตะเพิดออกจากวงไปเมื่อ 4 ปีก่อน Madagascar และ I.R.S. แทร็คที่”หลุด”ออกมาหลายปีแล้วกลับฟังไม่โดดเด่น แต่ Axl ก็ยังเก็บทีเด็ดไว้ปิดท้าย This I Love **** เปียโนบัลลาดคลอเครื่องสายและเสียงร้องใน mode หล่อ-หวาน สลับกับ โหยหา-ปวดร้าว ของโรส และแน่นอนต้องมี killer guitar solo ที่เป็นฝีมือ Robin ฉายเดี่ยว

Chinese Democracy ปิดท้ายด้วยเพลงรักแบบโรสๆ Prostitute ****1/2 ถ้าคุณสงสัยในความเป็นยอดนักร้องของเขานี่คือคำตอบ บทจะเน้นความลึกซึ้งเขาก็ตีบทแตกเป็นชิ้นๆ อารมณ์และเนื้อหาของบทเพลงดูจริงเกินกว่าที่จะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องแต่ง จบด้วยเครื่องสายแบบคลาสสิคัล

คงจะโหดร้ายเกินไปมากถ้าจะหวังว่า Chinese Democracy จะเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดที่โลกเคยมีมา เพียงเพราะว่ามันใช้เวลาการทำงานนานไปไม่หน่อย แต่ความจริงคือนี่คืออัลบั้มของวง Guns N' Roses ที่ยังให้ความเมามันส์และอารมณ์สุดขั้วในการฟัง ที่คุณไม่ละอายใจที่จะแหกปากสุดขั้วปอดตามนายโรสไปด้วยและไม่ลืมที่จะ"แอร์กีต้าร์"อย่างลืมตัวเป็นพักๆอีกต่างหาก (แม้ว่าคุณจะไม่ค่อยแน่ใจว่านั่นมันเสียงโซโลจากฝีมือใคร) ถ้าอัลบั้มนี้ไม่ล้มเหลวเกินไปนัก เราอาจจะไม่ต้องรอนานนักสำหรับงานต่อไปของ GN’R เพราะข่าววงในเล่าว่ามีเพลงพอสำหรับอีกสองอัลบั้มรออยู่แล้ว.... จะเชื่อดีไหมเนี่ย

Bob Ludwig มือมาสเตอร์ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลรับหน้าที่ทำมาสเตอร์ และนี่ก็เป็นหนึ่งในอัลบั้มร็อคยุคใหม่ที่ยังให้สุ้มเสียงเปิดกว้างเต็มไปด้วยรายละเอียด สรรพเสียงมากมายที่แออัดกันอยู่ในแต่ละเพลงถูกจัดสรรที่ทางกันไว้อย่างมีศิลปะ

เอาล่ะ ถึงแม้จะเชียร์แค่ไหน ก็ต้องยอมรับว่าแท้จริงแล้ว Chinese Democracy คืองานโซโลของ Axl Rose ทุกอย่างเป็นวิสัยทัศน์ ชีวิต และตัวตนของเขา โปรดตัดสินมันที่ตัวดนตรีครับ