Thursday 11 June 2009

MANIC STЯEET PЯEACHEЯS : JOUЯNAL FOЯ PLAGUE LOVEЯS



Manic Street Preachers-Journal For Plague Lovers (2009)****



ถ้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยแล้วมีคนโยนอัลบั้มใหม่(ชุดที่9) ของ Manics นี้มาให้เราฟัง สิ่งแรกที่เราประทับใจคงจะเป็นหน้าปก แม้หลายคนอาจจะมองว่ามันสยองๆไปหน่อย แต่เราว่ามันเตะตาชมัด แววตาของเด็กเลือดกลบปากคนนี้มันช่างไร้อารมณ์และเวิ้งว้างเสียจริง (ภาพนี้เดิมชื่อว่า 'Stare' เป็นผลงานการร่ายแปรงของ Jenny Saville ในปี 2004-5 เธอเคยเขียนปก The Holy Bible ให้วงมาก่อน อันเป็นอัลบั้มสุดท้ายของริชี่ เจนนี่เป็นศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านภาพเลือดสาดๆและไขมันเละๆที่ไม่ค่อยมีใครอยากข้องเกี่ยว)



เมื่อฟังดู เราคงจะประหลาดใจนิดหน่อยที่พบว่า The Manics หันกลับไปเล่นเพลงดิบๆแบบยุคแรกกันอีกครั้ง ทั้งๆที่งานชุดที่แล้ว Send Away The Tigers เป็น arena pop ที่อลังการแวววาวเต็มที่ และเป็นงานที่เรียกชื่อเสียงและความมั่นใจของทางวงกลับมาอีกครั้ง หลังจากหลายคนเริ่มแทงบัญชีดำให้พวกเขาแล้วเมื่อพบว่าพวกเขาออกงานล้าๆออกมาสองชุดติดต่อกัน พร้อมมีงานรวมฮิตออกมาเป็นสัญญาณอันตรายของวงที่ใกล้ถึงจุดดับ



แต่สิ่งที่ทำให้เราแปลกใจจริงๆอาจจะเป็นเมื่อเราอ่านพบใน liner notes ว่าเนื้อเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้แต่งโดย Richey James Edwards มือกีต้าร์และนักแต่งเนื้อเพลงของวงที่ไม่มีใครเห็นหน้าหรือเงาของเขามาตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 1995 และเพิ่งได้รับการประกาศให้เป็นผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2008 นี้เอง ริชี่เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในทาง image และ attitude ของวงในยุคแรก ทุกวันนี้ภาพที่ตราตรึงใจที่สุดของวงก็ยังคงเป็นภาพรอยสัก 4 REAL ทิ่ริชี่กรีดเองกับมือลงไปบนแขนของเขาเอง เพื่อเป็นการตอบคำถามนักข่าวว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” หรือไม่



การจะประเมินค่าอัลบั้มสักแผ่น มันเป็นไปได้หรือที่เราจะประเมินจากตัวตนสัมบูรณ์ที่แท้จริงของมัน ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องสัมพัทธ์และสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เราจะไม่รู้เบื้องหลังของ Journal... ว่าสมาชิกที่เหลือของวงสามคน สร้างมันขึ้นมาจากบทกวีที่ Richey ฝากเอาไว้ในแฟ้มให้พวกเขาทั้งสามก่อนจะหายตัวไปเพียงไม่กี่วัน (สมาชิกทั้งสามเคยนำวัตถุดิบจากแฟ้มนี้มาใช้ในบางเพลงในอัลบั้ม Everything Must Go และก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีกเลย) เราก็คงต้องยอมรับว่านี่เป็นอัลบั้มพังค์ร็อคที่ยอดเยี่ยมทั้งด้านดนตรีและเนื้อหา อย่างไม่น่าเชื่อว่า Manics จะสามารถกลับไปเล่นดนตรีที่ต้องการพลังของคนหนุ่มในวัยของพวกเขาในปัจจุบันได้อย่างน่าปรบมือให้



บางคนอาจจะไม่เห็นความสำคัญว่าเนื้อเพลงเหล่านี้จะมีที่มามาจากไหน แต่สำหรับแฟนระดับสาวกดั้งเดิมของวงนี้ อัลบั้มแผ่นนี้มันเป็นอะไรที่เกินไปกว่าอัลบั้มธรรมดา มันคือที่ระลึกในงานศพที่ไม่ได้จัด มันคือความฝันที่เป็นจริงแค่ครึ่งคืนอันยาวนาน จะพูดว่ามันเหมือนกับเป็นงานต่อจาก Holy Bible ก็อาจะเกินเลยไปนิด แต่ก็ชัดเจนว่าทางวงจงใจจะให้เป็นอย่างนั้น นับแต่หน้าปก ฟอนต์ตัวอาร์กลับข้างแบบรัสเซียที่ใช้ รวมไปถึงแนวดนตรี



สิ่งหนึ่งที่เราซาบซึ้งในตัว Manics ก็คือ พวกเขารักเพื่อน.. Richey ผู้จากไป นี้เหลือเกิน เหตุผลหนึ่งที่พวกเขานำบทกวีเหล่านี้มาใส่ทำนองและเล่นเป็นเพลงให้พวกเราฟังกันในปีนี้ ทั้งๆที่มันอยู่ในมือของพวกเขามาหลายปีดีดักแล้ว... พวกเขาไม่ได้บอกเราหรอกครับ แต่เราเดาว่าเป็นเพราะ 1) การประกาศว่าเขาเสียชีวิตแล้ว เหมือนเป็นการยืนยันว่ายังไงเสีย พวกเขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับบทกวีเหล่านี้ เพราะแน่ใจได้ว่าริชี่จงใจมอบให้พวกเขาสานต่อ 2) ความสำเร็จของอัลบั้มที่แล้ว ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใครกระแนะกระแหนว่าเอาเพื่อนมาหากิน และถ้าจะมีใครคิดเราก็ว่าเขาช่างเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายสิ้นดี




เพราะถ้าคุณรักดนตรีร็อคและเข้าใจการทำงานศิลปะ เชื่อว่าคุณจะรู้สึกได้ว่า Journal... เป็นงานที่ทำขึ้นมาด้วยความรักและหัวจิตหัวใจล้วนๆ Manics ทั้งสามนำถ้อยคำเปล่าๆที่ริชี่ทิ้งไว้มาทำเป็นเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบราวกับว่าผู้เขียนเนื้อเพลงมานั่งแต่งด้วยกัน ฝีมือการบันทึกเสียงและโปรดิวซ์ของ Steve Albini ผู้เคยทำงาน In Utero ให้ Nirvana ยิ่งทำให้งานนี้เข้มข้นขึ้นไปอีก (หมายเหตุ-Richey เคยแสดงความชื่นชมการทำงานของ Steve ที่ทำไว้ให้ Nirvana นี้-นี่จึงเป็นการแสดงความ “เอาใจ” ริชี่อย่างหนึ่งในการเรียกสตีฟมาโปรดิวซ์ให้ และถ้าท่านอยากทราบว่าสตีฟมีบทบาทในสุ้มเสียงของอัลบั้มนี้แค่ไหนลองหา demo versions ของทุกเพลงนี้ที่อยู่ใน Deluxe edtion มาฟังแล้วจะเข้าใจทันที)



ตั้งแต่ Peeled Apples เพลงแรก จนถึงเพลงสุดท้าย Williams' Last Words อัลบั้มนี้เยี่ยมยอดทุกแทร็ค และแม้ภาพรวมจะดิบดุแต่ก็มีการเบรคด้วยอคูสติกเพราะๆเป็นระยะ เจมส์ ดีน แบรดฟิลด์ ร้องและเล่นกีต้าร์ได้สุดยอดเหมือนเดิม แต่อาจจะถูกนิคกี้ ไวร์ มือเบสร่างโย่งใช้เสียงแกว่งๆของเขาขโมยซีนไปเสียหน่อยในเพลงสุดท้าย ที่จากถ้อยคำจะคิดให้เป็นจดหมายอำลาของริชี่ก็ว่าได้ เราจะไม่สาธยายทุกแทร็ค แต่อยากจะให้หามาฟัง และหาเนื้อร้องของริชี่มาร้องตามไปด้วย เขาเป็นนักเขียนเนื้อเพลงที่มีจินตนาการกว้างลึกในการใช้คำ และ..ไม่น่าเชื่อว่าเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน

รายงานบอกว่าทุกวันนี้ Manics ก็ยังแบ่งเงินที่ได้จากผลงานเก่าๆสมัยริชี่ยังอยู่ใส่ธนาคารให้เขา 25% เหมือนเดิม แม้ว่าเขาจะถูกประกาศว่าตายไปแล้วก็ตาม



เราเชื่อว่า Manics ไม่ได้ใช้วัตถุดิบของริชี่ทั้งหมดที่มีในงานนี้ แต่เราก็เชื่อเช่นกันว่าจะไม่มี Journal... ภาคสองออกมาแน่นอน



Tracklisting1. Peeled Apples2. Jackie Collins Existential Question Time3. Me and Stephen Hawking4. This Joke Sport Severed5. Journal For Plague Lovers6. She Bathed Herself In A Bath Of Bleach7. Facing Page: Top Left8. Marlon J.D.9. Doors Closing Slowly10. All Is Vanity11. Pretension/Repulsion12. Virginia State Epileptic Colony13. William’s Last Words



Produced By Steve AlbiniReleased May 2009