Monday 11 May 2009

twitter & spotify


หลังจาก facebook และ myspace ก็มี twitter นี่ล่ะที่เป็น social network หน้าใหม่ที่มีกราฟความดังและยอดผู้ใช้พุ่งตั้งชันเป็นปรากฏการณ์ twitter จัดเป็น micro-blogging site ที่เหมาะสำหรับคนขยันเขียนขยันพิมพ์แต่ไม่อยากพิมพ์เยอะ เพราะให้โพสต์ได้ครั้งละแค่ 140 ตัวอักษรเท่านั้น แต่จุดขายของมันจริงๆอาจจะอยู่ที่การมี “ผู้มีชื่อเสียง” ตัวจริง เสียงจริง มาเล่น แน่นอนว่าสาวกของEนู๋ Lily Allen ย่อมอยากรู้ว่าเธอกระดิกตัวทำอะไรบ้างในวันนี้ นอกจาก Lily แล้ว ก็ยังมีคนดังๆสายดนตรีอีกหลายท่านที่มี twitter อย่าง Graham Coxon แห่ง Blur, แร็ปเปอร์ผู้อื้อฉาว Eminem, และแน่นอน.... Britney Spears คุณเองก็ใช้บริการ twitter.com ได้ฟรีๆ ผมลองไปเปิดกับเค้าดูแล้วก็สนุกดีเหมือนกันนะครับ เวลาเราสนใจเรื่องอะไร เหมือนกับเราจะได้คุยกับผู้สนเรื่องเดียวกับเราได้ทั้งโลก....และการที่มันสามารถโพสต์ได้ทาง SMS ก็เป็นมิติใหม่ของการ blog แบบนี้ครับ

ตัวอย่างจาก twitter.com/lilyroseallen


“กำลังจะกระโดดเข้าไปใต้ฝักบัวและเริ่มตันวันใหม่ และขอบันทึกไว้ว่า ยา (เสพติด) เป็นสิ่งเลว อย่าใช้มัน บอกลูกหลานคุณด้วยว่าลิลลี่อัลเลนพูดไว้”


(แน่นอนว่าต้นฉบับเธอใช้ภาษาอังกฤษนะครับ!)


ผู้เชี่ยวชาญทาง internet ออกมาฟันธงกันว่า twitter น่าจะเป็นกระแสที่อยู่ในช่วงสั้นๆและก็จะถดถอยไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันไม่มีแก่นแท้เนื้อหาอะไรให้จับต้องได้เลย ก็ลองดูกันอีกซักปีครับ แต่ตอนนี้ท่าน hot เหลือเกิน


Spotify

ยุคของการ “โหลดเพลง” อาจจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน จะเสียเวลาไปไย ในเมื่อคุณสามารถฟังมันแบบ stream (ฟังได้ทันทีไม่มีการรอ buffer) ได้ตลอดเวลาทางคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ?


Spotify เป็น peer-to-peer streaming music program ที่ออกแบบโดยชาวสวีเดนเพื่อรองรับการฟังเพลงในรูปแบบใหม่นี้ ลองหลับตาคิดถึง iTunes ที่มีเพลงเต็มไปหมดรอคุณอยู่แล้ว ข้อด้อยของมันก็อาจจะมีแค่คุณไม่สามารถโหลดมาเก็บไว้เป็นส่วนตัวได้ แต่ถึงจุดหนึ่งมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป John Harris คอลัมน์นิสต์ดนตรีชื่อดังเขียนไว้ใน Q ว่ามันก็เหมือนกับทุกวันนี้คุณไม่จำเป็นต้องไปล่าสัตว์ด้วยตัวเองเพื่อเอามาเป็นอาหารนั่นแหละ (!)


ศิลปินใหญ่ๆบางท่านก็ยังไม่อยากลงมาเล่นกับเรื่องนี้ คุณจะไม่พบเพลงของ Pink Floyd หรือ Beatles ใน Spotify แต่ถ้าเป็น U2, Madonna, Rolling Stones หรือ Eminem และศิลปินอื่นๆอีกมากล่ะก็ไม่มีปัญหา


คำถามคือแล้วคุณต้องจ่ายอะไรมั่ง? -ฟรีครับ แต่คุณต้องอาจต้อง “ฟัง” โฆษณาบ้างในทุกๆ20-30 นาที แต่ถ้าคุณเป็นภูมิแพ้โฆษณาก็ยังมีทางเลือกให้ใช้เวอร์ชั่นปลอดแอ็ดแต่ต้องจ่ายให้ Spotify เดือนละ 10 ปอนด์ หรือ 100 ปอนด์ไปเลยต่อ 1 ปี


สำหรับคนสนใจคุณภาพเสียงก็อาจจะถามว่าไฟล์ที่ได้ฟังนั้นเป็นแบบใด คำตอบคือเป็นแบบ Vorbis format ที่ความละเอียด q5 (เทียบกับ mp3 ได้ประมาณ 160 Kbit/S) ที่ผมคิดว่าพวกเราอาจจะคิดว่ามันหยาบไปหน่อยใช่ไหมครับ แต่นักฟังทั่วๆไปผมคิดว่าเขาน่าจะโอนะ


ความสนุกของมันอาจจะอยู่ที่การได้แลกเปลี่ยน playlist ที่สร้างได้เหมือน iTunes กับเพื่อนๆที่ใช้ Spotify ด้วยกัน และการเข้าถึงข้อมูลที่ทำได้ราวกับพระเจ้า อาทิ ถ้าเช้าวันอาทิตย์นี้คุณอยากฟังเพลงจากปี 1987 ที่เป็นนักร้องหญิงเพียงอย่างเดียวตลอดรายการ Spotify จัดให้คุณได้ทันที


คู่แข่งของ Spotify รายสำคัญก็คือขวัญใจวัยุร่น Last.fm ที่บุกเบิกมาหลายปีแล้ว แต่หลายเพลงใน Last.fm เราก็ฟังได้แค่ 30 วินาที ขณะที่ใน Spotify เต็มเพลงทุกเพลง....


ในบ้านเรายังไม่มี free version นะครับ คงต้องรออีกสักระยะ แต่เวอร์ชั่นเสียตังค์นั้น...ได้เลยครับ


ฟังดูก็ทันสมัยดีนะครับ แต่หลังจากศึกษาเรื่องนี้เสร็จ ผมดันกลับรู้สึกอยากกลับไปฟังแผ่นไวนีลเงียบๆในห้องคนเดียวซะอย่างนั้น!!!

No comments: