Wednesday 6 May 2009

Yes,Pet Shop Boys.


Pet Shop Boys-Yes (2009)***1/2

Released date: เมษายน 2009

Producer: Pet Shop Boys, Xenomania

แนวดนตรี: Synth Pop


Tracklist: (ในวงเล็บคือชื่อผู้ประพันธ์)
1. "Love etc." (Tennant/Lowe/Higgins/Cooper/Powell/Parker)3:32

2. "All over the world" (Tennant/Lowe/Tchaikovsky)3:51

3. "Beautiful people" (Tennant/Lowe) 3:42

4. "Did you see me coming?" (Tennant/Lowe)3:41

5. "Vulnerable" (Tennant/Lowe) 4:47

6. "More than a dream" (Tennant/Lowe/Cooper/Higgins/Resch/Jones) 4:57

7. "Building a wall" (Tennant/Lowe) 3:50

8. "King of Rome" (Tennant/Lowe) 5:31

9. "Pandemonium" (Tennant/Lowe) 3:43

10. "The way it used to be" (Tennant/Lowe/Cooper/Higgins/Coler) 4:44

11. "Legacy" (Tennant/Lowe 6:21



จะว่าไปผมก็ฟังดนตรีของ Neil Tennant และ Chris Lowe มาตั้งแต่พวกเขาเริ่มดังกันใหม่ๆในเพลงสุดฮิตอย่าง West End Girls, It’s A Sin, Rent หรือ What Have I Done To Deserved This? ที่ทำให้เด็กเกรียนรุ่นนั้นได้รู้จักกับเสียงร้องสุดคลาสสิกของท่านแม่ Dusty Springfield


ใครจะไปคิดว่าคู่ดูโอท่าทางตลกๆทำเพลงน่ารักๆเต้นๆป๊อบๆอย่างนี้จะอยู่ยงคงกระพันมาจนจะ 30 ปีเข้าไปแล้ว!


Yes เป็นอัลบั้มที่ 10 ของพวกเขา และเป็นข่าวดีของแฟนๆเก่าแก่โดยแท้ที่ PSB กลับมาเล่นดนตรีดิสโก้-ซินธ์ป๊อบในแบบดั้งเดิมของพวกเขากันอีกครั้ง หลังจากพยายามเล่นแนวลึกล้ำหม่นหมองในอัลบั้มก่อน Fundamental แต่ผลตอบรับไม่ดีนัก แฟนพันธุ์แท้หลายคนยกให้นี่เป็นงานที่ดีที่สุดของวงนับตั้งแต่ Very ในปี 1993


Yes, Pet Shop Boys. แค่ชื่ออัลบั้มก็เหมือนบอกกลายๆแล้วว่า นี่ล่ะจ้ะ เพ็ท ช็อป บอยส์ ขนานแท้กลับมาแล้ว ปกอัลบั้มเรียบง่ายและชื่ออัลบั้มที่สั้นจู๋อย่างที่พวกเขาชอบทำ และแม้ว่า PSB จะกลายเป็นตำนานในการทำเพลงป๊อบของอังกฤษไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยอมสลัดอีโก้ออกไป(บางส่วน) เพื่อทำงานร่วมกับทีมงานใหม่ๆ ในอัลบั้มนี้พวกเขาโปรดิวซ์ร่วมกับ Brian Higgins แห่งทีมโปรดักชั่น Xenomania ( ผู้โปรดิวซ์ให้ Sugababes, Girls Aloud) และได้มือดีอย่าง Johnny Mars อดีต The Smiths มาเล่นกีต้าร์และฮาร์โมนิกาให้ รวมทั้ง Owen Pallett ผู้เคยฝากผลงานกับ Arcade Fire และ The Last Shadow Puppets มาเขียนสกอร์เครื่องสายให้ด้วย (เพลง ‘Beautiful People’ ออกมาในแนว Last Shadow Puppets ไปเลย)
Pet Shop Boys เคยร่วมงานกับ Xenomania ให้เราฟังมาก่อนหน้านี้แล้วในเพลง The Loving Kind ของ Girls Aloud (เคยรีวิวไปแล้ว) ก็พอจะบอกได้ว่าเป็นการจับคู่ที่ไม่น่าจะมีปัญหา จะว่าไปถ้าไม่มีข้อมูลก็แทบจะไม่รู้สึกว่างานอัลบั้ม Yes นี้เป็นการโปรดิวซ์ร่วมกับ Xenomania เพราะซาวนด์ของทั้งคู่ก็ไม่ได้หนีกันนักอยู่แล้ว


Xenomania อาจจะช่วยทำให้เพลงของ PSB กระชับและมีบีทที่กระชุ่มกระชวยสดใสขึ้น แต่ละเพลงดูจะไม่ลังเลที่จะกระโจนเข้าสู่ท่อนคอรัสเพื่อจะรัดคอผู้ฟังให้อยู่หมัด กล่าวคือ เพลงป๊อบยุคนี้ไม่จำเป็นอีกแล้วว่าจะต้องมีท่อนเวิร์สสองท่อนแล้วจึงคอรัส ผมเชื่อว่า Yes ที่ไม่มี Xenomania ก็คงไม่เลวร้าย แต่ไม่น่าที่จะติดหูและแพรวพรายขนาดนี้


Yes ไม่ได้มีแต่เพลง upbeat ล้วนๆแต่อย่างใด PSB ยังหยอดเพลงที่ลุ่มลึกเชื่องช้า (และอาจจะน่าเบื่อ) เอาไว้เป็นระยะๆ แต่เพลงที่เป็น highlights จริงก็คือเพลงสนุกสนานชวนเต้นรำของพวกเขานั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น Love, etc. ****ซิงเกิ้ลแรกที่กระหึ่มฮึกเหิมชวนให้คิดถึงวันคืนที่พวกเขา cover เพลง Go West ของ Village People, All Over The World*** สะดุดหูด้วยการขอยืมธีมจาก The Nutcracker ของ คีตกวี Tchaikovsky มาใช้ในช่วงอินโทร โดยเนื้อหามันคือ Silly Love Songs ของ PSB, Did You See Me Coming?**** อีกเพลงที่ชื่อเพลงสองง่ามสองแง่อย่างที่พวกเขาชอบทำ ดนตรีในเพลงนี้สดใสสวยงามเหลือเกิน แต่เพลงเอกจริงๆต้องยกให้ Pandemonium ***** ที่เหมือนกับจับ Stock/Aitken/Waterman ทีมสร้างเพลงป๊อบสำเร็จรูปชื่อดังแห่งยุค 80’sไปทำงานในยุคโมทาวน์แล้วเขียนเพลงมาให้ Pet Shop Boys เล่น นี่เป็นเพลงที่ผมภูมิใจเสนอยกให้เป็นเพลงคลาสสิกเพลงล่าสุดของพวกเขาครับ! ปิดอัลบั้มด้วยเพลงยาวเหยียด Legacy*** ที่แสดงถึงความลึกล้ำของฝีมือคีย์บอร์ดของ Chris Lowe อย่างแท้จริง


นอกจากฝีมือการเขียนท่วงทำนองที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนระดับเจ้าสำนักและเนื้อเพลงที่คมคายแหวกโลกที่เป็นจุดเด่นเสมอมาของพวกเขาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมเสมอมาสำหรับ PSB ก็คือการใช้ซินเธอะไซเซอร์และคีย์บอร์ดได้อย่างชาญฉลาด พวกเขาทำให้เครื่องดนตรีสังเคราะห์เหล่านี้มีชีวิตชีวาไม่แพ้เครื่องดนตรีอคูสติกแท้ๆ และไม้ตายเด็ดๆทั้งสามท่าของพวกเขาที่กล่าวมาในย่อหน้านี้ก็ยังอยู่ดีใน Yes


แฟนเก่ารุ่นบุกเบิกของ PSB คงกระดี้กระด้ากันไปแล้ว ส่วนนักฟังที่ไม่เคยสัมผัสงานของพวกเขาก็สามารถเริ่มต้นได้ที่นี่เลยครับ จะฟังเพลินๆยามพักผ่อนหรือจะใช้ประกอบการเต้นรำก็เข้าทีทั้งนั้นสำหรับ Yes

No comments: