Wednesday 25 May 2016

ทุกสิ่งทุกอย่าง พร้อมกันในคราเดียว


Travis-Everything At Once ***1/2

Produced by Michael Ilbert
Released: April 2016
Genre: Post-Britpop, Indie Rock, Alternative Rock



Everything At Once เป็นอัลบั้มชุดที่ 8 ของวงร็อคจากสก็อตแลนด์วงนี้ หลังจากคลำหาทางกลับสู่ความยิ่งใหญ่ที่วงทำไว้ในช่วงรอยต่อของทศวรรษในอัลบั้มอย่าง The Man Who และ The Invisible Band พวกเขาทำได้อีกครั้ง มันคือ Travis ที่แฟนๆอยากจะฟังที่สุด เสียงร้องที่นิ่มนวลและฟังดูปิ่มเศร้าอยู่ในทีที่ยังสดใสเหมือนไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนของ Fran Healy (แม้ว่ารูปลักษณ์ของเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน) ขับร้องเพลงที่เป็นมุมมองสวยงามและความหวังต่อโลกที่ดูเหมือนจะไม่มีหวังให้มอง และเพื่อนร่วมวงที่ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่คนเดียว: Andy Dunlop กีต้าร์, กลอง Neil Primrose และ Dougie Payne เบส และเหมือนกับชื่ออัลบั้ม Everything At Once ประหนึ่งเป็นอัลบั้มที่ Travis ทบทวนย้อนหาในสิ่งดีงามที่เขาเคยสร้างไว้ในดนตรีของพวกเขาตั้งแต่ปี 1996 และแตะในแต่ละประเด็นมาผนวกเป็นอัลบั้มนี้ ที่มีความยาวเพียง 33 นาที จัดว่าสั้นมากสำหรับยุคนี้ แต่คุณจะต้องการอะไรที่มันยาวไปกว่านี้ ในเมื่อนี่เป็น 10 เพลงที่ไม่มีเศษเพลงเลย

พวกเขาตั้งวงในปี 1990 ในกลุ่มนักศึกษาศิลปะด้วยกันในกลาสโกว์ ย้ายไปลอนดอนในปี 1996 Travis เริ่มต้นด้วยดนตรีร็อคเน้นกีต้าร์หนักและเสียงร้องเปี่ยมชีวิตชีวา Good Feeling อัลบั้มแรกคือหลักฐานในความสำเร็จนั้น มีเพลงดังอย่าง “Happy”  และ “Tied to the 90’s” แต่ความสำเร็จของมันกลับกลายเป็นแค่จุดเล็กๆ เมื่อ The Man Who อัลบั้มที่สองมาถึง โปรดิวซ์โดย Nigel Godrich (Radiohead) เขาทำให้ Travis แทบจะกลายเป็นคนละวง ด้วยอารมณ์ที่หม่นหมอง บนเพลงที่เนิบนาบยิ่ง มันกลายเป็นอัลบั้มแห่งปีของหลายสำนัก และส่งให้ Travis เป็นวงระดับพรีเมี่ยมไปในทันที มันเต็มไปด้วยเพลงระดับคลาสสิกอย่าง “Writing To Reach You”, “Why Does It Always Rain On Me?”, “Turn” หรือ “Driftwood”  The Invisible Band อัลบั้มต่อมา เหมือนเป็นการประกาศว่าพวกเขายินดีเป็นวงเล็กๆต่อไปมากกว่าจะครองโลก และ Travis ก็ทำอัลบั้มออกมาอย่างไม่รีบร้อน ในแนวทางที่พวกเขาอยากทำ หม่นหมองและหนักหน่วงขึ้นใน 12 Memories กลับไปร็อคดุๆใน Ode to J. Smith และทำท่าจะกลับมาในแนวเดิมอย่าง The Invisible Band ใน Where You Stand เพียงแต่งานเหล่านี้ เหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไปเสียทุกครั้ง และโลกก็เหมือนจะลืมๆพวกเขาไป

แต่ความขาดไปนั้นได้ถูกเติมเต็มใน Everything At Once อย่างที่ต้องบอกซ้ำอีกครั้ง ว่านี่คือ Travis ที่แฟนๆอยากจะฟัง ดนตรีที่ต่อยอดจาก Oasis, Radiohead และวงร็อคอังกฤษอีกหลายวงในยุคต้น 90’s และเป็นอิทธิพลสำคัญให้วงดนตรีแบบ Coldplay, Kean และ Snow Patrols

What Will Come เสียงร้องของฟรานสดใสและไพเราะอย่างที่ไม่เคยได้ยินมานานแล้ว เนื้อหาตรงไปตรงมาไม่ต้องตีความมากว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นคือ ไม่ว่าจะในอนาคตจะมีอะไรรอเราอยู่ เขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญกับมัน Magnificent Time เพลงที่น่าจะสนุกสนานที่สุดในอัลบั้มเพลงนี้ เริ่มต้นมาจากไอเดียของนักคีย์บอร์ดของวงรุ่นน้อง Time Rice Oxley แห่ง Keane และไม่น่าแปลกที่มันจะฟังดูเหมือนเพลงของ Keane พอสมควร Radio Song ฟรานย้อนระลึกถึงบรรยากาศในการทำเพลงของวงร็อคอังกฤษยุคต้น90’s ที่เต็มไปด้วยเสียงกีต้าร์ในแนวทางที่เอามาจากฝั่งอเมริกาอีกที เขาได้ไอเดียมาจากการได้ยินเพลงๆหนึ่งของ The Breeders ทางวิทยุ  All of The Places เสียงร้องของฟรานไพเราะถึงที่สุดบนคีย์บอร์ดและกีต้าร์หนุงหนิงชวนฝันไปถึงยุค The Man Who

สองเพลงที่ให้อารมณ์แตกต่างไปจากเพลงพลิ้วหวานของ Fran เป็นผลงานการแต่งของ Doug Payne มือเบส Animals – เพลงที่สะกิดให้เราสำนึกว่าเราก็เป็น animal เหมือนกัน   และไทเทิลแทร็ค Everything At Once ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในเพลงที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีมากที่สุดที่ Travis เคยทำมา โดดเด่นด้วยการใส่คำร้องถี่ยิบในแบบที่ไม่เป็น Travis ที่เราคุ้นเคยเอาเสียเลย แต่มันไม่ทำให้เรารู้สึกต่อต้านแต่อย่างใด

ฟรานเล่าว่า เขาเขียน Paralysed เพื่อบรรยายถึงภาพที่เราชินตากันในสังคมทุกวันนี้ ผู้คนยืน,นั่ง,เดิน ก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟน กึ่งๆจะดูเหมือนคนเป็นอัมพาต และคงจะโทษคนฟังไม่ได้ถ้าเสียงคอรัสกระหึ่มๆอย่างนั้นจะทำให้คิดถึง Coldplay เพราะพวกเขาใช้เทคนิคนี้บ่อยมากในระยะหลังจนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว (ไม่ช่วยอะไรเลยที่ Paralysed จะสัมผัสกับ Paradise ชื่อเพลงๆนึงของ Coldplay ดีไปหน่อยด้วย)

หลังจากฟังเสียงฟรานมาทุกเพลง เป็นอะไรทีแช่มชื่นนักที่ได้ฟังนักร้องสาว Josephine Oniyama มาร้องคู่กับฟรานใน Idlewind (เหตุผลจริงๆคือฟรานร้องคอรัสเพลงนี้ไม่ได้เลยต้องหาคนช่วย)

นี่คือ Travis ที่สดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถ่ายทอดความเห็นของเขาต่อโลกใบนี้และสังคมใน 10 เพลงสั้นๆที่จะตรึงตราในหัวใจคุณอย่างง่ายดาย มันอาจจะไม่กินใจและหยุดโลกอย่างThe Man Who แต่ในนาทีนี้ นี่เป็นสิ่งที่แฟนๆ Travis อยากฟังจากพวกเขาที่สุดแล้ว.... ขอย้ำอีกเป็นครั้งสุดท้าย

Tracklist:

What Will Come 
Magnificent Time 
Radio Song 
Paralysed 
Animals 
Everything At Once 
3 Miles High 
All Of The Places 
Idlewild (ft. Josephine Oniyama) 
Strangers On A Train




No comments: