Monday 30 March 2015

Penny Lane

• ตำนาน Penny Lane
(Lennon-McCartney) 2:57
----------------------------------------------------
• ผู้แต่ง--พอล
• นักดนตรี
พอล-ร้อง,เบส,คีย์บอร์ด
จอห์น-ริธึ่มกีต้าร์,ร้องสนับสนุน,ฮาร์โมเนี่ยม(?),เปียโน,ปรบมือ และ คองก้า
จอร์จ-ร้องสนับสนุน,เพอร์คัสชั่น(?)
ริงโก้-กลอง,แทมโบรีน,ทิวบูลาร์ เบลล์,เพอร์คัสชั่น
จอร์จ มาร์ติน-เปียโน,ปรบมือ
เดวิด เมสัน-ปิ๊คโคโล่ ทรัมเป็ต
พี. กู๊ดดี้, เรย์ สวินฟิลด์, เดนนิส วอลตัน, แมนนี่ วินเตอร์ส-ฟลุ๊ท,พิคโคโล่
ลีออน คาลเวิร์ต,ดันแคน แคมป์เบลล์, เฟรดดี้ เคลย์ตัน, เบิร์ต คอร์ตลีย์-ทรัมเป็ต,ฟลูเกิ้ลฮอร์น
ดิ๊ก มอร์แกน, ไมค์ วินฟิลด์-โอโบ,อิงลิชฮอร์น
แฟรงค์ คลาร์ค-ดับเบิ้ลเบส
• บันทึกเสียง
ที่แอบบี้โร้ดในวันที่ 29-30 ธันวาคม 1966 (สตูดิโอ 2) / 4 มกราคม-6 มกราคม1967 (สตูดิโอ 2) / 10 และ 12 มกราคม 1967 (สตูดิโอ 3) / 17 มกราคม 1967 (สตูดิโอ 2)
• จำนวนเทคทั้งหมด: 9
• การมิกซ์:
ที่แอบบี้โร้ดในวันที 29-30 ธันวาคม 1966 (สตูดิโอ2) / 9 มกราคม 1967 (สตูดิโอ 2) / 12 มกราคม 1967 (สตูดิโอ 3) / 17มกราคม1967(สตูดิโอ2) / 25 มกราคม1967(สตูดิโอ1)
• ทีมงานด้านเทคนิค
โปรดิวเซอร์: จอร์จ มาร์ติน
ซาวนด์ เอ็นจิเนียร์: เจฟฟ์ เอเมอริค
ผู้ช่วยเอ็นจิเนียร์:ฟิล แมคโดนัลด์
-------------------------
• จุดกำเนิด
Penny Lane เปรียบเสมือนคำตอบของพอลต่อเพลง Strawberry Fields Forever ของจอห์น ทั้งสองเพลงนี้ซึ่งต่างก็เป็นเพลงที่เพรียกหาความทรงจำในวัยเยาว์ได้สร้างสรรค์รูปแบบของความสมบูรณ์แบบในศิลปะของเพลงป๊อบ Penny Lane เป็นชุมชนในลิเวอร์พูลอันมีถนนและสถานีรถประจำทางตัดผ่านซึ่งพอลเคยใช้มันในการเดินทางไปหาจอห์นที่บ้าน "ผมอาศัยอยู่ที่ Peny Lane บนถนนที่มีชื่อว่า New Castle Road ดังนั้นผมจึงเป็นบีทเทิลคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่ Penny Lane" จอห์นอธิบายเรื่องนี้ไว้ในปี 1980 หลังจากนั้นเขาก็ย้ายจากตรงนั้นไปอยู่ที่ Woolton... และสุดท้าย เป็นพอลที่เป็นคนอุทิศเพลงให้สถานที่นี้ เขาได้เฝ้าครุ่นคิดถึงหัวข้อนี้ตั้งแต่ปี 1965 และเขาก็ได้นำมันมาใช้เมื่อพอลกำลังค้นหาไอเดียใหม่ๆสำหรับอัลบั้มต่อไป พอลเขียนเพลงนี้ที่บ้านใหม่ในแบบวิคตอเรียนของเขาที่ Cavendish Avenue ในละแวกที่เรียกกันว่า St. John's Wood
ขณะที่จอห์นได้ไล่เรียงชื่อสถานที่ที่เขาเติบโตขึ้นมาในเนื้อเพลงดั้งเดิมของ "In My Life" พอลกลับคิดถึงตัวละครต่างๆในเพลง Penny Lane ไม่ว่ามันจะเป็นตัวละครสมมุติหรือมีชีวิตจริงก็ตาม ตัวอย่างเช่น ช่างตัดผมชื่อ Bioletti นั้นมีอยู่จริง, สถานีดับเพลิงก็อยู่ใกล้ๆ,มีธนาคารอยู่ที่หัวมุม--แม้ว่าตัวละครที่ เป็นนายธนาคารจะเป็นการสร้างจากจินตนาการของพอลก็ตามที--และก็มีการขายดอกป๊อบปี้กันทุกปีในช่วงเวลาของ Remembrance Day (11 พ.ย.) "Blue Suburban Skies" เป็นการใช้วิสัยทัศน์ในแบบกวีและกึ่งไซคีดีลิกปนนิยายปรัมปราในการวาดภาพชุมชนนี้, ซึ่งจะว่าไปก็ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ธรรมดาๆ
จอห์นช่วยพอลแต่งในท่อนที่สาม และทั้งคู่ก็สนุกสนานกันในการใส่เดอร์ตี้โจ๊กเล็กๆลงไป: four of fish and finger pie พอลอธิบายเรื่องนี้ไว้ในปี 1967 "คนทั่วไปจะไม่เก็ท แต่ "finger pie" มันเป็นมุกตลกเล็กๆสำหรับเด็กลิเวอร์พูลที่ชอบอะไรซกมกสักหน่อย"
-------------------------------------------
• ขั้นตอนการผลิต (Production)
เซสชั่นแรกของ Penny Lane เริ่มขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคม 1966 พอลต้องการสุ้มเสียงที่สะอาดมากๆ จากการที่เขาได้รับอิทธิพลจากงานบันทึกเสียงทางฝั่งอเมริกาอย่างเช่นใน Pet Sounds ของ The Beach Boys โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพลง "God Only Knows" เพลงที่พอลคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเพลงที่งดงามที่สุดที่เคยมีการประพันธ์กันมา (จวบจนทุกวันนี้) พอลนั่งเล่นเปียโนอยู่คนเดียวและใช้เวลาหกเทคในการสร้างเบสิกแทร็ค จากนั้นเขาก็ใส่เสียงเปียโนหลังที่สองลงไป,ส่งมันผ่านแอมป์ Vox พร้อมกับใส่ vibrato และ reverb และยังมี honky tonk piano อีกหลังหนึ่งทับซ้อนลงไปอีก ริงโก้เล่นแทมโบรีน สุดท้ายพวกเขาใส่เสียง harmonium ผ่านแอมป์ Vox บวกกับเสียงเพอร์คัสชั่นเข้าไปเป็นอันเสร็จสรรพสำหรับวันแรก วันต่อมา พอลอัดเสียงร้องนำของเขาโดยมีจอห์นร้องประสาน วันนี้พวกเขาชะลอเทปที่อัดลงเล็กน้อย ทำให้ตอนนำมาเล่นกลับเสียงร้องของเขามี pitch ที่สูงขึ้น
ในวันที่ 4 มกราคม 1967 หลังจากจอร์จและจอห์นพยายามเล่นลีดกีต้าร์และเปียโนลงไปในเพลงแต่ได้ผลไม่เป็นที่พึงพอใจ,พอลก็อัดเสียงร้องของเขาลงไปใหม่ และเขาก็ร้องใหม่อีกครั้งในวันต่อมา ส่วนวันที่ 6 มกราคม พอลอัดเสียงเบสไลน์อันลือลั่นของเพลงนี้ด้วย Rickenbacker 4001S โดยมีจอห์นเล่นกีต้าร์ริธึ่มและคองโก้คลอไป ริงโก้ตีกลอง เจฟฟ์ เอเมอริคใช้เทคนิค compress เพลงทั้งเพลงอย่างหนักและอัดเสียงด้วยเทปที่เดินช้ากว่าปกติอีกครั้ง ในเทค 7 จอห์นและจอร์จ มาร์ตินเล่นเปียโนและปรบมือลงไป และสุดท้าย จอร์จ แฮริสัน,จอห์น และ พอล อัดเสียงร้องสนับสนุน
ต่อมาพอลขอให้จอร์จ มาร์ตินเขียนสกอร์สำหรับเครื่องเป่าทองเหลืองและเครื่องเป่าไม้ให้หน่อย และมาร์ตินก็จัดให้ดังนี้ ฟลุ๊ตสี่ตัว, ทรัมเป็ตสอง, พิคโคโล่สอง และฟลูเกิ้ลฮอร์นหนึ่งตัว พวกเขาอัดเสียงเครื่องดนตรีเหล่านี้ในวันที่ 9 มกราคมในแทร็ค 2 ของเทค 9 วันต่อมาริงโก้อัดเสียงทิวบูล่าร์เบลล์ทับซ้อนลงไป และต่อมาในวันที่ 12 มกราคมก็มีการอัดเสียงทรัมเป็ตสองตัว,โอโบสองตัว,อิงลิชฮอร์นสองตัวและดับเบิ้ลเบสหนึ่งตัวลงตามไป
ระหว่างนั้นในวันที่ 11 มกราคม พอลดูทีวีในรายการของบีบีซีและได้เห็นนักทรัมเป็ตคนหนึ่งเล่นเพลง Brandenburg Concerto no.2 ของ Bach แล้วรู้สึกประทับใจ พอลรายงานความรู้สึกนี้ต่อมาร์ติน โปรดิวเซอร์หนุ่ม(ตอนนั้น)บอกเขาว่า นั่นคือ piccolo trumpet หรือบางทีก็เรียกกันว่า Bach trumpet พอลชอบเสียงของมันและมาร์ตินก็ไม่ปฏิเสธว่าพวกเขาสามารถนำมันมาใช้ในเพลงได้ และพอลก็ไม่คิดว่าจะเอาใครก็ได้มาเป่า เขาติดต่อ เดฟ เมสัน สมาชิกวง New Philharmonia Orchestra of London ที่เขาเห็นในทีวีนั่นแหละมาเป่าใน Penny Lane ในวันที่ 17 มกราคม มาร์ตินเป็นคนเขียนโน็ตจากที่พอลร้องให้ฟังและส่งต่อให้เมสันเป่า เมสันนั่งรออยู่สามชั่วโมง ก่อนที่จะเป่าโน๊ตในท่อนโซโลนั้นด้วย B-Flat Piccolo ของเขาในเทคเดียว แม้ว่าเขาจะเป่าได้สุดยอดและหมดจดปานนั้น พอลก็ยังอยากให้เมสันลองอีกสักเทค แต่มาร์ตินไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่ามันเจ๋งแล้วและพอลก็โอเคในที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เมสันก็ยังเป่าท่อนเล็กๆน้อยๆอีกสองส่วนซึ่งถูกนำมาใช้ในตอนท้ายเพลง(conclusion)
มิกซ์ที่ถูกเลือกจากจำนวนการมิกซ์มากมายคือมิกซ์ที่ 11 และถูกส่งไปยัง Capitol ซึ่งกำลังรอซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขาอยู่ แต่กระนั้นในวันที่ 25 มกราคม พวกเขาตัดสินใจว่าจะลบท่อนทรัมเป็ตตอนท้ายออกและทำการมิกซ์ใหม่เพื่อส่งไปอเมริกาอีกครั้ง แต่มันก็ช้าเกินไป Capitol ปั๊มแผ่นโปรโมจากมิกซ์ 11 นั้นมาบางส่วนแล้ว และทุกวันนี้แผ่นเหล่านั้นก็จัดเป็นของหายากของนักสะสม
ใช้เวลาสามสัปดาห์ในการโปรดิวซ์ Penny Lane แต่มันก็คุ้มค่าสำหรับผลงานที่เราได้ยิน

No comments: