Saturday 21 February 2009

เบื้องหลังความกระหายทำลายล้าง






ระหว่างที่รออยู่ว่าเมื่อไหร่นายดับบลิว(ที่บ้านเรียกอย่างงี้)จะเข็นอัลบั้มที่คลอดยากที่สุดในโลกของ GNR (Guns N’ Roses) ออกมาซะที ผมก็สงสัยอยู่ว่างานนี้ Mike Clink จะมาโปรดิวซ์ให้อีกหรือเปล่า คลิงค์เป็นโปรดิวเซอร์คู่บารมีของ GNR และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาสร้างงาน debut Appetite For Destruction ออกมาได้สุ้มเสียงปานนั้น และเมามันส์เยี่ยงนั้น

มันเป็นเวลาตี 4 ของเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงปี 1986 ที่โปรดิวเซอร์หนุ่มได้รับโทรศัพท์เสียงกระเส่าจากชายนาม Axl Rose โรสเพิ่งได้ฟังเดโมเพลง Shadow Of Your Love ที่พวกเขาทำร่วมกับคลิงค์ตอนสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและเขารู้โดยพลันว่างานนี้เขาเจอคนที่เหมาะสมแล้ว

ก่อนหน้านี้บรรดาเหล่าพลพรรคกันส์แอนด์โรสเซสได้ลองร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มากหน้าแต่ผลออกมาก็งั้นๆ (หนึ่งในนั้นคือพอล แสตนลีย์แห่งคิสส์)

GNR ประทับใจงานของคลิงค์มาตั้งแต่ที่เขาทำให้ UFO ในอัลบั้มแสดงสด Strangers In The Night ที่คลิงค์จัดการกับการมิกซ์เสียงกีต้าร์ประสานคู่ได้อย่างสุดซี้ด แต่เหนืออื่นใดการที่คลิงค์ได้โอกาสเข้ามารับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้วงก็น่าจะเป็นความจริงใจมากกว่า....

คลิงค์ว่าอย่างนี้จริงๆ "พวกเขาเชื่อถือในตัวผม เพราะผมมักจะบอกพวกเขาตรงๆว่าที่เขาเล่นกันนั้นมันเป็นไง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยู่ในแคมป์นี้ได้นานโคตร...ความตรงแบบขวานผ่าซากของผม"

ถึงแม้คลิงค์ จะทราบมาก่อนแล้วว่า GNR ขึ้นชื่อว่าเป็นวงที่ทำงานด้วยยาก แต่เขากลับทำตัวกลมกลืนและยอมรับคาแรกเตอร์ส่วนตัวของสมาชิกได้แบบสบายๆ คืนไหนถ้าเขาไม่ได้มิกซ์งานดึกดื่น เขาก็จะออกไปท่องราตรีกินเหล้ากับวงด้วย "มันเป็นเวลาที่บ้าบอดีแท้ แต่ผมก็สนุกไปกับมันด้วย" คลิงค์เล่าความหลัง
คลิงค์เล่าว่าพวก GNR ต้องการให้ซาวนด์ออกมาดิบและเน้นการประสาน-ประชันของกีต้าร์สองตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัดอยู่แล้ว พวกเขามักจะพูดถึงแผ่นเสียงที่พวกเขาชอบกัน โรสจะฟังเพลงตลอดเวลา และวงโปรดวงนึงของเขาในช่วงนั้นคือ Metallica ส่วนอิซซี่จะชอบ Dixie Dregs สแลชนั้นเป็นขาหินกลิ้ง ดัฟฟ์เล่นพวกพังค์ ส่วนสตีเฟนนั้นชอบทุกแนวที่กล่าวมา

พวกเขาทำเพลงกันประมาณ 20 แทร็ค และแน่นอนต้องมีบางเพลงที่ต้องถูกคัดออก หนึ่งในนั้นคือ November Rain ที่ต้องออกไป แม้ทุกคนจะยอมรับในความเป็นมหากาพย์ของมัน เพราะความไม่เข้าพวก งานนี้คลิงค์เล่าว่าเถียงกันหน้าดำหน้าแดงไปตามๆกัน

สิ่งที่ยากที่สุดในการโปรดิวซ์วงนี้สำหรับคลิงค์ก็คือ "การที่จะทำให้ทั้งห้าคนทำในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน พวกเขาเป็นพวกสติพล่านกระเซ็นตลอดเวลา มักจะอยากทำอะไรเป็นพันๆอย่างในเวลาเดียวกันหรือไม่ก็ไม่อยากทำอะไรแม่งซักอย่างเลย" แต่คลิงค์ก็ยังมีทีเด็ดอีกอย่าง "ผมมักจะรู้โดยสัญชาติญาณว่าเมื่อไหร่วงจะพีคแล้วและควรจะหยุด ผมจะรู้ทันทีว่านั่นคือเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีที่สุดของพวกเขาแล้ว"

เพลงส่วนมากจะบันทึกเสียงกันอย่างรวดเร็วประมาณ 5-6 เทค บางเพลงอาจไปถึง 10 แต่ไม่มากไปกว่านั้น เพราะทางวงซ้อมกันมาอย่างค่อนข้างดีแล้ว และคลิงค์ก็พยายามให้ทุกอย่างออกมา"สด"เท่าที่จะทำได้ มีแต่เสียงโซโลของสแลชเท่านั้นที่จำเป็นต้องมาอัดทีหลังทุกครั้ง

Appetite....มีซาวนด์ที่น่าประทับใจแม้ในทุกวันนี้เราก็ยังไม่รู้สึกว่ามันล้าสมัยซักนิด เคล็ดของคลิงค์คือเขาพยายามจะไม่ยึดติดกับอุปกรณ์ที่ตัวเองชอบ เช่นเสียงกีต้าร์ของอิซซี่จะเหมาะสำหรับแอมป์ Carvins เขาจะใช้ทุกอย่างที่ขวางหน้าและหลังอะไรก็ตามที่มันจะเวิร์ค ผลที่ได้คือความสดทรงพลังและหลากหลายของซาวนด์ตลอดโปรแกรม

เมื่อไมค์ คลิงค์มิกซ์เสียง Appetite...เสร็จ เขารู้ดีว่ามันซาวนด์ amazing แค่ไหน แม้จะไม่คิดถึงขั้นว่ามันจะกลายเป็นงานคลาสสิกแห่งยุคสมัยไปได้ เขายังจำได้ดีว่าวันหนึ่ง Tom Zutaut ผู้เป็น A&R coordinator ของGeffen โผล่เข้ามาฟัง playback ในวันหนึ่งหลังบันทึกเสียงเสร็จ เขาถามคลิงค์ "ไมค์ นายว่าไอ้อัลบั้มนี้มันจะขายได้ซักกี่โหลวะเนี่ย?" ไมค์ตอบ "อัลบั้มนี้จะขายได้ถึงสองล้านก๊อปปี้" ด้วยความภาคภูมิใจในน้ำเสียง และทอมก็บอกว่า "นายผิดว่ะ มันจะขายได้ถึงห้าล้าน นายคอยดู"

ทั้งไมค์และทอมทำนายผิดทั้งคู่ ทุกวันนี้มันขายได้เกิน 15 ล้านไปแล้ว...

หลังจากงานนี้ ก็ตามฟอร์มต้องมี"ลูกค้า"เข้ามาหาคลิงค์และเรียกร้องจะให้เขาสร้างเสียงแบบ กันส์แอนด์โรสเซสให้หน่อย ซึ่งไมค์ก็มีคำตอบสำเร็จในรูปแบบคำถาม "แล้วดนตรีของพวกนายออกมาเหมือนกันส์แอนด์โรสเซสรึเปล่าล่ะ ถ้าไม่ ก็ไม่มีทางว่ะ"

ไมค์ คลิงค์ทิ้งทายไว้สำหรับวิธีการที่เขาจัดการกับวง GNR ได้สำเร็จในขณะที่คนอื่นไม่มีใครทำได้

"ผมทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายและไม่กลัวกับการทำอะไรผิด ผมรู้ทางลัดมากมายในการที่จะทำให้หลายอย่างง่ายขึ้น และผมก็ชอบที่จะทำงานแบบสนุกๆ ผมทำให้ทุกๆคนมีความรู้สึกราวกับว่าพวกเขาจะพิชิตโลกใบนี้ได้"

1 comment:

winston said...

ฟังเมื่อไหร่ก็มันส์เมื่อนั้น มันเป็นงานมหัศจรรย์ที่ฟังเผินๆเหมือนดิบ เถื่อน โฉด แต่เอาเข้าจริงๆดนตรีแม่ง..ละเอียดละเมียดยิบ โดยเฉพาะการเล่นกีต้าร์ทวินของสแลชและอิซซี่ที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนตลอดอัลบั้ม