Saturday 21 March 2015

A Hard Day's Night liner notes

"The Beatles: A Hard Day's Night"
Liner Notes by Tony Barrow
-----------
Alun Owen เริ่มต้นเขียนบทหนังเรื่องนี้ตอนปลายๆฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว โปรดิวเซอร์ Walter Shenson และผู้กำกับ Richard Lester ก็ไปนั่งชมดาราหน้าใหม่ของพวกเขาทำงานกันในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่บนเวที Finsbury Park หรือที่เรียกกันว่า 'Astoria' ในลอนดอน จอห์นและพอลเริ่มต้นที่จะสะสมบทประพันธ์ใหม่ๆสำหรับซาวนด์แทร็คในขณะที่เดอะ บีทเทิลส์ไปปรากฏตัวที่ 'Olympia' ในปารีสเมื่อเดือนมกราคมที่แล้ว และเช้าวันหนึ่งในตอนต้นเดือนมีนาคม รถไฟคันหนึ่งที่ถูกเหมาเป็นกรณีพิเศษก็ได้เคลื่อนตัวออกจากสถานี Paddington และการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของ The Beatles ก็เริ่มต้นขึ้น
ฟิล์มอันทรงคุณค่าม้วนแล้วม้วนเล่าได้ถูกบรรจุเก็บไว้ในกล่องเหล็กของทีมงานถ่ายทำก่อนที่จะมีการตั้งชื่อหนังในสังกัด United Artists picture เรื่องนี้เสียอีก และแล้วจู่ๆริงโก้ก็สร้างชื่อนี้ขึ้นมาในการสนทนาธรรมดาๆหลังจากวันหนึ่งของการถ่ายทำที่ค่อนข้างจะโหดเป็นพิเศษ "มันเป็นคืนแห่งวันที่เหนื่อยสาหัสขอบอก!" ริงโก้ประกาศออกมาขณะที่กำลังทรุดตัวลงบนเก้าอี้ผ้าใบด้านหลังทีมกล้องและช่างเทคนิค และบัดนั้น หนังเรื่องนี้ที่ได้ Wilfred Brambell มาเล่นในบทของคุณปู่(แสนลึกลับ)ชาวไอริชของพอล, ก็ได้ชื่อเสียทีอย่างรวดเร็ว 'A HARD DAY'S NIGHT'
เนื้อหาของหนังเป็นการพรรณนาถึงอะไรแบบว่าเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง48ชั่วโมงในชีวิตอันชุลมุนของสี่หนุ่มวงดนตรีร็อค ชื่อของพวกเขา จอห์น,พอล,จอร์จ และ ริงโก้ เราจะได้ยินเพลง A Hard Day's Night ตอนต้นๆเลยของหนังขณะที่หนุ่มๆร้องและเล่นไปด้วยในไทเทิลเปิดหนัง เพลงนี้จอห์นร้องคู่กับเสียงของเขาเองด้วยวิธีการดับเบิ้ลแทร็ค ธีมของเพลงนี้ที่ร่าเริงและจับใจมาโผล่ให้ได้ยินในตอนอื่นของหนังด้วยในรูปแบบของออเคสตรัลที่เขียนสกอร์โดยผู้กำกับการบันทึกเสียง จอร์จ มาร์ติน
เพลง 'I Should Have Known Better' ของจอห์นเปิดตัวในตอนต้นของหนังระหว่างฉากบนรถไฟที่สี่หนุ่มเล่นไพ่กันในส่วน guard's van ของรถไฟ
จอห์นและพอลแชร์เสียงร้องกันใน 'If I Fell', เพลงแรกในสี่เพลงที่อยู่ในช่วง theatre/studio อันยาวเหยียด อันเป็นช่วงที่แสดงให้เห็นการซ้อมดนตรีของวงและสุดท้ายก็ออกแสดงในรายการพิเศษทางโทรทัศน์ 'I'm Happy Just To Dance With You' ให้โอกาสจอร์จได้รับหน้าที่ร้องนำ, 'And I Love Her'ปรับสปอตไลท์ไปที่พอล และจอห์นก็มาจอยด้วยกับเขาในเพลงต่อมา 'Tell Me Why'
เพลงสุดท้ายของเจ็ดเพลงอันเกรียงไกรของซาวนด์แทร็คนี้ 'Can't Buy Me Love' ได้กลายเป็นเพลงฮิตทั่วโลกของบีทเทิลส์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ใน 'A Hard Day's Night' มันได้เป็นแบ็คกราวนด์ให้ในหลายๆฉาก--เมื่อหนุ่มๆวิ่งไล่กันข้ามสนามหลังจากหนีออกมาจากสตูดิโอโทรทัศน์ทางทางหนีไฟและในฉากที่มีการวิ่งแข่งอันเหลือเชื่อระหว่างบีทเทิลส์,แฟนๆและตำรวจซึ่งท่านจะได้เห็นบีเทิลส์วิ่งตะบึงไปบนถนนและตรอกซอกซอยด้วยความเร็วเกินจริงเป็นสองเท่า!
การสรรสร้างและขัดเกลาให้เสร็จเรียบร้อยสำหรับบทประพันธ์ใหม่ๆในซาวนด์แทร็ค 'A Hard Day's Night' ถือเป็นการท้าทายครั้้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในฐานะนักเขียนเพลงป๊อบของพวกเขา เมื่อก่อนนี้การเขียนเพลงของพวกเขาจะเกิดขึ้นแบบสบายๆไม่รีบเร่ง แต่ตอนนี้พวกเขามีเส้นตายของการถ่ายหนังรออยู่และเพลงใหม่ๆทั้งหมดจะต้องถูกรวบรวมในระหว่างคอนเสิร์ตในปารีสและการไปเยือนอเมริกา(ที่ตอนนี้เป็นตำนานไปแล้ว) เพื่อช่วยให้งานเดินดีขึ้น สองหนุ่มลงทุนสั่งแกรนด์เปียโนตัวหนึ่งมาไว้ในห้องสวีทที่พวกเขาพักอยู่ที่ George V ในปารีส
เมื่อถึงต้นเดือนมีนาคม งานก็เสร็จสมบูรณ์และเดอะ บีทเทิลส์ก็มีเพลงเกือบโหลที่รอคอยการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายอยู่ มีการระวังกันอย่างดีไม่ให้หนัง A Hard Day's Night ออกมาเป็นแค่เพียงการเดินพาเหรดของการแสดงดนตรีของบีทเทิลส์ และพวกบีทเทิลส์เองก็เห็นด้วยว่าหนังควรจะนำเสนอพวกเขาในแง่มุมต่างๆของบุคลิกส่วนตัวให้หลากหลายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาเข้าจริงๆแล้วมุมด้านฮาๆเคยเป็น,และยังเป็นเรื่องที่สำคัญมหาศาล และจอห์น,พอล,จอร์จ และ ริงโก้ก็ได้รับโอกาสเต็มที่ที่จะแสดงอารมณ์ขันแบบสดๆของพวกเขา
เป็นที่เห็นตรงกันว่าไม่ควรมีเพลงเกินหกเพลงในซาวนด์แทร็คของหนัง ถ้าเพิ่มเพลงมากกว่านี้จะไปแย่งเวลาในการแสดงเนื้อหาของหนังไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนจะเป็นอะไรที่ไม่แฟร์เลยที่จะไปตัดโอกาสของเพลงใหม่ๆของพวกเขาในเมื่อแต่ละเพลงนั้นมีคุณภาพขั้นดีเลิศ สุดท้ายก็ตกลงกันที่จะบันทึกเสียงทุกเพลงที่จอห์นและพอลได้แต่งขึ้นมาและจะใส่เพลงพิเศษนอกเหนือจากในหนังไว้ที่หน้าสองของอัลบั้ม
แม้ว่าเราจะได้ยินเสียงของจอร์จ แฮริสันมากมายตลอดอัลบั้ม แต่ในหน้าสองของแผ่นเสียงจะเป็นการแชร์เสียงร้องระหว่างนักแต่งเพลง-จอห์นและพอล พอลเป็นคนแต่งเนื้่อเพลงใน 'Things We Said Today' และเราจะได้ยินเขาร้องคู่กับจอห์นใน 'I'll Cry Instead' และส่วนใหญ่จอห์นจะเป็นเสียงหลักในเพลง'Any Time At All', 'When I Get Home', 'You Can't Do That' และ 'I'll Be Back' ขณะที่จอร์จและพอลร้องแบ็คอัพกันสุดฤทธิ์ในทุกๆเพลงที่กล่าวมา
เมื่อคุณได้ฟังเพลงในหน้าสองแล้วคุณจะเห็นด้วยว่ามันคงเป็นเรื่องน่าเสียดายนักที่จะขับไล่ไสส่งเพลงเหล่านี้ออกไปเพียงเพราะว่ามันไม่อาจนำไปใส่ในหนัง 'A Hard Day's Night' ได้เหมาะสม และบัดนี้,ด้วยอัลบั้มนี้ในห้องสะสมของคุณ, คุณได้มีการบันทึกเสียงของบีทเทิลส์ทีครบครันและทันสมัย ในขณะดียวกันมันน่าสนใจที่จะรำลึกว่าแผ่นเสียงที่อยู่ในซองนี้เป็นอัลบั้มแรกสุดที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเพลงที่แต่งและเล่นโดย Beatles ล้วนๆ

No comments: