Friday 20 March 2015

1962-1966


1962-1966 เป็นอัลบั้มรวมฮิตชุดแรกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวของ Beatlesมันออกมาในเดือนเมษายน ปี 1973 คู่มากับ 1967-1970เหตุผลที่ออกเพราะว่ามี"ของเถื่อน"ชื่อ Alpha Omega ออกมาชี้โพรงก่อนอีเอ็มไอเลยเต้นดีดตัวปล่อยอัลบั้มคู่สองคู่นี้ตามมาอย่างรวดเร็วคนเลือกเพลงทั้ง 26 เพลงในอัลบั้ม "Red" นี้ คือ Allen Kleinผู้เป็นกึ่งๆผู้จัดการวงของวงที่พอลเกลียดขี้หน้าที่สุดแต่เพลงทั้งหมดก็ผ่านการยอมรับ จาก John และคนอื่นๆทุกเพลงเป็นเพลงที่แต่งในนามของเลนนอน-แมคคาร์ทนีย์มีทั้งเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลฮิต และ เพลงดีๆในอัลบั้มที่ไม่ถูกตัดแยกขายปะปนกันไปคุณอาจจะหาข้อตำหนิอัลบั้มนี้ได้มากมายแต่ข้อหาที่เจอบ่อยหน่อยก็คือ เพลงน้อย ขายแพงแต่ผมมักจะแก้แทนให้เสมอ ว่าทำไมเราต้องวัดความคุ้มค่าที่ปริมาณเพลง?มันเป็นเทปม้วนแรกที่ผมซื้อในช่วงปี 1980 หรือ 1981 นี่ล่ะครับ (แน่นอน...เทปไร้ชีพ)ความฝันในวัยเรียนคืออยากเก็บเงินให้ได้เร็วๆจะได้ไปซื้อแผ่นเสียงเก็บเอาไว้เพราะว่ากลัวถ้าผ่านไปหลายๆปี ต้นฉบับ เทปต้นฉบับอาจจะสึกหรอ...คิดแบบเด็กๆ (แต่ปีที่แล้วก็มีข่าวว่าเทปมาสเตอร์กำลังจะแย่จริงๆ โดยเฉพาะจุดที่มีการใช้กาวติดเอาไว้)แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่เคยมีแผ่นเสียงชุดนี้มีแต่เทปที่ซื้อแล้วซื้ออีก เคยไหมครับ เทปชุดที่ยืดเมื่อไหร่ต้องรีบไปซื้อมาแทนทันทีบางทีผมก็ซื้อตุนไว้เลยซีดีชุดนี้ผมก็ตุนไว้อีกชุดเช่นกัน
ปีนี้อัลบั้มนี้จะ re-issue ออกใหม่อีกครั้งโดยนำเวอร์ชั่น remastered 2009 มาทดแทนฉบับ 1993ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่าผมชอบฉบับ 1993 มากกว่าครับ เพราะเสียงเป็นธรรมชาติฟังสบายหูกว่าใครยังไม่มีก็รีบไปจัดการหามานะครับ ก่อนที่จะกลายเป็นของหายาก หรือหาไม่ได้
ผมเลือกอัลบั้มชุดนี้เป็น Album of my lifeเป็นเพราะมันเป็นเทปม้วนแรกที่ซื้อหรือ?ไม่ใช่แน่นอนครับ เหตุผลนั้นอาจจะมีผลต่อความรู้สึกดีๆ แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักแน่เพลง 26 เพลงนี้ผมมีมันอยู่ใน original album ทั้งหมดแต่ฟังจากที่ไหน ก็ไม่เคยรู้สึกผูกพันและลงตัวเท่ากับฟังจากอัลบั้มปกแดงนี้ปีหลังๆมานี้ ผมอาจจะไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้ทุกปีแต่ทุกครั้งที่หยิบมันขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดฟังต่อเนืองจนจบอย่างอิ่มเอมทุกครั้งและถ้าไฟจะไหม้บ้าน หรือเกิดซือนามิจากแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะอะไรก็ตามที่ทำให้ผมมีโอกาสครอบครองแค่อัลบั้มเดียวไปชั่วชีวิตที่เหลือผมก็จะเลือกไอ้ปกแดงนี่ล่ะครับ รักนิรันดร์จริงๆเรา
คิดอยู่หลายตลบว่าจะเขียนถึงมันอย่างไรดีใน Album of My Life วันเปิดงานนี้เขียนวิจารณ์ตรงๆเขียนเล่าที่มาที่ไปทีละเพลงเขียนเป็นเรื่องสั้น ให้แต่ละเพลงแอบมีชีวิตแบบ Toy Story และนางมิเชลล์ต้องคร่ำครวญหาสามี Nowhere Man ที่หายไปเมื่อ Yesterday และ...แต่สุดท้ายผมก็อยากจะเขียนแบบนี้ครับผมอยากจะขอบคุณทุกเพลงในอัลบั้มนี้ที่เป็นเพื่อนผมให้ความสุขผมสอนผมให้รู้จักอะไรหลายๆอย่างในชีวิตผมอยากขอบคุณพวกเขาและเธอทีละเพลง... จะหาว่าผมบ้าก็ยอมล่ะ ที่คิดว่าแต่ละเพลงในนี้มีชีวิต เหมือนเป็นญาติสนิทที่ผมรู้กำเนิด รู้เบื้องหลังบางคน ... บางเพลง รู้แม้กระทั่งมีตำหนิมีปานแดงที่ไหนเริ่มนะครับ
ขอบคุณ Love Me Do ที่สอนให้ผมเข้าใจว่าความรักนั้นมันไม่ได้ยุ่งยากไปกว่า การจูนให้ตรงกันของคนสองคน
Please Please Me นายทำให้ฉันเข้าใจว่าชีวิตบางทีก็ต้องมีการเรียกร้อง แม้ปากจะบอกว่าไม่อยากจะบ่น
ขอบคุณ From Me To You ที่ให้ยืมตัวโน้ตมาให้ผมร้องที่เชียงใหม่วันนั้น แม้ว่ามันจะไม่ได้เหมาะกับกาละเทศะเลย แต่เราก็สนุกด้วยกัน
She Loves You ขอบคุณสำหรับเสียงตะโกน เย้ เย เย นั้น ที่ฉันคิดเสมอว่ามันคือเสียงร้องไห้ของไอ้หนุ่มที่มาบอกข่าวดีให้เพื่อนคนนั้น ผมเชื่อว่ามันแอบรักชีอยู่
ขอบคุณ I Want To Hold Your Hand ที่เป็นบทเพลงก่อนวัยเรียนให้ผมในวัยที่ยังไม่เคยสัมผัสมือสาวใด และถึงเวลาจริงๆก็ไม่เคยได้ร้องเพลงนี้ก่อน
ALL My Loving นายช่างเข้าใจความรู้สึกของการพลัดพราก และอารมณ์ของการเขียนจดหมายเสียจริง
Can't Buy Me Love ใช่เลย เงินซื้อคนรักได้ แต่ซื้อความรักไม่ได้ และฉันยังจำฉากใน A Hard Day's Night ที่สุดจะมั่วและแสนสนุกนั้นได้ดี และเราเคยคิดว่าท่อนโซโลกีต้าร์ของจอร์จใน AHDN มันช่างว่องไวอะไรเช่นนั้น อิอิ
And I Love Her ขอบคุณที่เป็นบทเรียนแรกๆของการเล่นอีเลกโทนเป็นเพื่อนฉัน (ควบไปกับ Ob-La-Di, Ob-La-Da)
Eight Days A Week สารภาพว่าฉันไม่ค่อยชอบนายนัก เพราะดูนายจะอ้อนเกินและไม่จริงใจ แต่นั่นมันอดีต สุดท้ายเมื่อนายยืนยัน ฉันก็เชื่อว่าคนรักกันจริงๆมันรุ้สึกอย่างนั้นได้ วันนึงอยากจะให้เกิน 24 ชม. สัปดาห์หนึ่ง 8 วันก็อาจจะน้อยไป
I Feel Fine เคยพูดถึงนายไปทีนึงแล้วใน My Top Ten Forever พร้อมๆกับ In My Life นายคงรู้นะ ทั้งสองเลย ว่าเรารักนายแค่ไหน
Ticket To Ride ขอบคุณสำหรับเสียงส่งกลองที่แสนจะน่ารัก และความเจ็บปวดของการพลัดพรากบนท่วงทำนองที่เบิกบาน
Yesterday เราเคยสงสัยในตัวนาย เราว่า Yesterday Once More เพราะกว่าอีก ขอโทษนะ เรามันโง่เอง นายสอนเราทางอ้อมด้วยว่าไม่ควรปากไม่ดีแล้วจะมาเสียใจทีหลัง อ้อ แล้วเราก็เลิกสงสัยแล้วด้วยว่าทำไมคนชอบเอานายไปร้อง
Help! นายทำให้เราคิดถึงหนังสนุกๆเรื่องนั้น และความดีใจจนเนื้อเต้นของเรา ตอนได้เห็นเพลงนี้ออกทีวีในรายการของ American Top 40 ที่จัดอันดับอะไรซักอย่าง และเพลงนี้เป็นเพลงที่ 1
You've Got To Hide Your Love Away เราไม่ค่อยชอบตอนนาย Hey! เลย แต่ก็ขอบใจนะ เพราะนายคงจะต้องตะคอกหน่อยใช่ไหม กลัวว่าเราจะไม่ hide my love?
We Can Work It Out ขอบคุณที่ทำให้เรานึกได้ว่าเราวิ่งไปถามแม่ว่า work it out แปลว่าอะไร
DayTripper นายทำให้เรารักเสียงแทมโบรีน และเราก็รักนายมากขึ้นทุกปีๆรู้ไหม
Drive My Car เราไม่เคยได้ยินใครร้องเพลงแบบนี้มาก่อน เหมือนพูด แล้วยังมีมาบีบแตรกันกลางเพลงอีก เราสนุกเสมอกับเพลงนี้ และนายหลอกลวงเรามาหลายปีว่าใครเป็นใครในเพลงนี้ (ความจริงเราโง่เอง)
Norwegian Wood ขอบคุณสำหรับเสียงซีต้าร์ที่เราไม่เคยได้ยินจากไหนมาก่อน
Nowhere Man ทำให้เรารู้ว่าเสียงของจอห์น พอล จอร์จ นี้ช่างกลมกล่อมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสุดยอด เราชอบการเล่นคำของนายด้วย แม้ว่าเราจะงงๆก็เหอะ
Michelle ทำให้เราพูด(ร้อง) ฝรั่งเศสเป็น และคงมีอีกหลายล้านคนที่เป็นอย่างเรา
Girl เราได้ยินมาว่าจอร์จ มาร์ตินชอบนายนะ เราว่านายเหนือชั้นมากกว่าใครๆ นายไม่เหมือนใครจริงๆ
Paperback Writer นายทำให้ฉันอยากเป็นนาย แต่น่าจะกลายเป็น Facebook Writer ซะมากกว่า
Eleanor Rigby ฉันอยากจะไปงานศพเธอจัง ถ้าจะให้ดีฉันอยากเจอเธอก่อนตาย เราอาจจะได้คุยอะไรกันข้างหน้าต่างบานนั้นซักหน่อย
Yellow Submarine เธอทำให้ฉันใฝ่ฝันจะมีเรือดำน้ำส่วนตัว
เหนื่อยจัง... แต่ก็มีความสุขขอบคุณอีกครั้งสำหรับหน้าปกที่คล้ายๆ Please Please Me ผมกำลังจะเดินขึ้นไปหาพวกคุณนะ ริงโก้,พอล,จอร์จ และ จอห์น รอหน่อยนะ (นานๆก็ได้)

No comments: